เก่งเกียร์อาร์ไม่แคร์ดราม่า! พูดถึง "พีช BMW" ให้ด่าไป เดี๋ยวก็เหนื่อยกันเอง
“เก่งเกียร์อาร์” ส่งกำลังใจให้ “พืช BMW” ท่ามกลางดราม่าถาโถม ฝากข้อคิดจากคนเคยเจ็บหนักมาแล้ว!
จากกรณีที่เป็นกระแสสังคมอย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อ “พืช BMW” หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลินวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลลำลูกกา ในนามทีมธัญญก้าวหน้า ได้ตกเป็นข่าวในข้อหาขับรถยนต์หรู BMW ป้ายแดงปาดหน้ารถกระบะของสองสามีภรรยา จนเกิดอุบัติเหตุชนแบริเออร์ ส่งผลให้คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 ช่วงบางนา-บางปะอิน บริเวณกิโลเมตรที่ 22 ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ได้ดำเนินการเรียกตัวนายสมิทธิพัฒน์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อหาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
แม้เจ้าตัวและบิดา ซึ่งก็คือ “นายกเบี้ยว” นายกฤษฎา หลินวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จะเดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอขมาและแสดงความรับผิดชอบด้วยการนำพวงมาลัย 2 พวงไปขอขมาครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เนื่องจากลูกสาวของลุงกับป้าเจ้าของรถกระบะปฏิเสธที่จะรับคำขอโทษ พร้อมระบุว่า “ไม่รู้สึกถึงความจริงใจ และคิดว่าการกระทำครั้งนี้เป็นเพียงการแสดงที่ถูกสื่อกดดันให้ทำ”
เมื่อเรื่องราวบานปลาย และเสียงวิจารณ์จากสังคมถาโถมอย่างหนัก ล่าสุดในวันที่ 20 เมษายน 2568 หนึ่งในบุคคลที่เคยเป็นกระแสดราม่าอย่างหนักในอดีตและเคยเผชิญสถานการณ์คล้ายกัน อย่าง “เก่งเกียร์อาร์” หรือ นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อส่งกำลังใจให้ “พืช BMW” พร้อมฝากข้อคิดจากประสบการณ์ตรงของตนเองในอดีต
โดย “เก่งเกียร์อาร์” ระบุข้อความว่า
“ฝากถึงน้องลูกพีช บีเอ็ม ถ้าเขาจะด่า ก็ให้เขาด่าไป เดี๋ยวเขาเหนื่อย เขาเบื่อ ก็หยุดกันไปเอง ตอนนั้นผมโดนเยอะกว่าคุณอีก”
พร้อมแนะว่าในช่วงเวลาแบบนี้ ควรตั้งสติ ทำบุญให้เยอะ ดูแลพ่อแม่ และแสดงความจริงใจให้ผู้เสียหายรับรู้โดยไม่ต้องให้สังคมเห็นก็ยังได้ เพราะความสบายใจจะเกิดขึ้นกับทั้งสองครอบครัวหากความสำนึกเป็นของจริง
เก่งเกียร์อาร์ยังกล่าวเสริมว่า...
“ถ้าไม่รู้จะทำไงต่อ ก็เข้าวัดทำบุญเยอะๆ ดูแลพ่อแม่ตัวเองให้ดีๆ ตอนนี้ท่านคงเครียดน่าดู ไม่สบายจะแย่เอานะ แล้วต่อไปก็ปรับปรุงตัวใหม่ เข้าใจว่าวัยนี้อารมณ์ขึ้นง่าย ผมก็เป็น แต่ถ้าใจเย็นลงหน่อย คิดถึงคนข้างหลังบ้างก็จะดีกว่า... พี่กันเค้าอาจจะลองใจคุณอยู่นะ อย่าเพิ่งขึ้น! พิสูจน์ให้เค้าเห็นว่าคุณสำนึกจริงๆ”
พร้อมทิ้งท้ายให้กำลังใจและให้โอกาสพืชปรับตัว โดยบอกว่าถ้าเห็นความรับผิดชอบจริงๆ ในอนาคตตนก็พร้อมสนับสนุน
“ไม่ต้องคิดข้ออ้างอะไรละ ยึดอกแมนๆ ทำให้เห็นว่ามีความรับผิดชอบ ต่อไปคุณลง ส.ส. ผมก็เลือกคุณ!”
คำพูดของเก่งเกียร์อาร์ แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจในสถานการณ์ เพราะเขาเองก็เคยตกเป็นเป้าโจมตีของสังคมจากเหตุการณ์ชื่อดังในอดีตที่ถอยชนรถคู่กรณีและกลายเป็นไวรัลระดับประเทศ ทำให้หลายคนในโซเชียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ของเก่ง พร้อมทั้งชื่นชมที่เขาเลือกจะส่งต่อประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังเผชิญเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน
คดีนี้กลายเป็นบทเรียนที่สำคัญของสังคม โดยเฉพาะในยุคที่ “โซเชียลมีเดีย” เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนความเห็นของคนเพียงไม่กี่คนให้กลายเป็นกระแสสังคมขนาดใหญ่ได้ในเวลาไม่กี่นาที พฤติกรรมของบุคคลสาธารณะยิ่งต้องถูกตรวจสอบ และความรับผิดชอบต่อสังคมก็ยิ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ในอีกด้านหนึ่ง มุมมองจากผู้ที่เคยผ่านความผิดพลาดมาแล้วอย่างเก่งเกียร์อาร์ ก็ทำให้เห็นว่าสังคมไทยยังมีพื้นที่ให้กับการ “ให้โอกาส” หากคนที่เคยทำผิดแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความพยายามในการปรับปรุงตัว
ขณะที่กระแสดราม่ายังไม่สงบ หลายฝ่ายรวมถึงชาวเน็ตต่างเฝ้ารอดูว่า “พีช BMW” จะสามารถพิสูจน์ความจริงใจของตนเองได้หรือไม่ จะเดินหน้าไปยังไงต่อในเส้นทางการเมือง และจะกอบกู้ศรัทธาจากประชาชนกลับมาได้อย่างไร?













