เต้ มงคลกิตติ์แฉแรง มีคนจ้างมือปืนเก็บ "กัน จอมพลัง" เผยมีคนรับงานแล้ว
"เต้ มงคลกิตติ์" แฉเดือด! อ้างมีคนจ้างมือปืนสังหาร "กัน จอมพลัง" จ่ายมัดจำแล้วครึ่งล้าน ฝาก ผบ.ตร. ตรวจสอบด่วน
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในโลกออนไลน์และแวดวงการเมือง เมื่อ "เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" อดีต ส.ส. และนักการเมืองที่รู้จักกันดีในแง่ของการกล้าพูด กล้าแฉ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะเตือนภัยต่อ "กัน จอมพลัง" นักเคลื่อนไหวที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองจากสังคมไทย ด้วยภารกิจช่วยเหลือสังคมที่โดดเด่นและจริงใจ แต่กลับถูกกล่าวอ้างว่าตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหารจาก "ซุ้มมือปืน" โดยมีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าไปแล้วถึง 500,000 บาท!
เรื่องนี้ไม่ได้จบแค่ในโลกโซเชียล เพราะหลังจากที่โพสต์ของเต้เผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทันที มีทั้งฝ่ายที่เชื่อและไม่เชื่อ บ้างมองว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อเตือนหรือขู่ บ้างก็มองว่าอาจมีเบื้องหลังที่ลึกซึ้งกว่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ข้อมูลที่ได้มานั้นตรงกันจากสองแหล่งข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และดูน่าเชื่อถือจนทำให้ตนต้องออกมาเตือนสาธารณะ
โพสต์แรกของ เต้ มงคลกิตติ์ ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า เป็นข้อความเตือนจากพี่ถึงน้อง โดยใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใยว่า
“ฝากถึงน้องกัน จอมพลัง ถอยเถอะน้อง นายใหญ่สั่งพี่ชายนายมาแล้ว นายไม่ถอย มัวเชื่อ fc มาก จำบทเรียนของทนายตั้มไว้ เคยดังขีดสุด fc ช่วยไม่ได้ คดีจะมาเพียบ”
และตามมาด้วยโพสต์ที่สองซึ่งมีน้ำเสียงอ่อนลง แต่ก็ยังแฝงด้วยความจริงจังระคนเป็นห่วงว่า
“ที่เตือนเพราะรักและห่วงใย น้องเป็นคนดีมาก แต่ควรรักษาชีวิตไว้ดูแลครอบครัวและประชาชนท่านอื่นๆ พี่รู้นิสัยนักการเมืองมาเฟียดี เขาจะเตือนครั้งเดียว พี่น้องเขาไม่สน เขาสนอำนาจอย่างเดียว”
แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ “นายใหญ่” ที่ว่าไว้ แต่จากคำอธิบายที่ว่ากำลังมีอิทธิพลสูงในแวดวงการเมือง ก็ทำให้หลายคนเริ่มคาดเดากันไปต่างๆ นานา ซึ่งเต้เองก็เลือกที่จะไม่เปิดเผยชื่ออย่างตรงไปตรงมา แต่ฝากให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบว่าเรื่องนี้มีมูลหรือไม่
"กัน จอมพลัง" กับภารกิจช่วยสองตายาย ชนเส้นอิทธิพลการเมือง?
สิ่งที่น่าสนใจคือ เต้ มงคลกิตติ์ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้กันตกเป็นเป้าหมายในครั้งนี้ เป็นเพราะการเข้าไปช่วยเหลือ "สองตายาย" ในคดีที่ดูเหมือนว่าจะมี “ผู้มีอิทธิพล” หรือเครือข่ายทางการเมืองเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง และอาจเป็นการไปกระทบกับผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ ทำให้เกิดความไม่พอใจจนถึงขั้น "ว่าจ้างเก็บ"
นี่คือจุดที่สังคมเริ่มตั้งคำถามว่า การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในประเทศไทยนั้นปลอดภัยแค่ไหน? โดยเฉพาะเมื่อคนที่ออกมาช่วยเหลือประชาชน กลับถูกอ้างว่าอาจต้องเสี่ยงชีวิต ไม่ต่างจากกรณีในอดีตที่มีนักการเมืองท้องถิ่นหลายรายต้องสังเวยชีวิตเพราะการแฉอิทธิพลมืด
เต้ มงคลกิตติ์ ยังพูดถึงประเด็นอิทธิพลท้องถิ่น โดยยกตัวอย่างจังหวัดปทุมธานี ที่เคยมีนักการเมืองถูกลอบสังหารแต่ไม่สามารถนำผู้บงการตัวจริงมาลงโทษได้ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหา "มือที่มองไม่เห็น" ที่ยังคงมีบทบาทอยู่ในหลายพื้นที่ และอาจเชื่อมโยงกับการใช้อำนาจในทางไม่ชอบ
เขาย้ำว่า “นักการเมืองไว้ใจไม่ได้ ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน มีหมด ไว้ใจใครไม่ได้ ควรรักษาชีวิตของตัวเอง”
ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างหลากหลาย บ้างก็รู้สึกตกใจและเห็นด้วยกับการเตือนของเต้ ขณะที่บางส่วนมองว่าอาจเป็นเรื่องที่ “เล่นใหญ่” เกินไป หรืออาจเป็นการสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องอื่นในแวดวงการเมืองก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนคือ เรื่องนี้ไม่อาจมองข้ามได้ง่ายๆ เพราะหากมีมูลความจริง ย่อมเป็นสัญญาณอันตรายต่อระบบความยุติธรรมและความปลอดภัยของผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาชน
สิ่งที่สังคมเรียกร้องในตอนนี้คือการแสดงบทบาทจากผู้มีอำนาจทางกฎหมาย โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ควรเร่งตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง หากไม่มีมูลก็ต้องออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน แต่หากพบว่ามีบางอย่างอยู่เบื้องหลังจริง ต้องรีบดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครจะมีเจตนาอย่างไร การที่มีคนออกมาเปิดโปง หรือเตือนภัยเช่นนี้ ควรถูกพิจารณาด้วยความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพิกเฉยหรือมองข้าม





















