โดนปรับกว่า 130,000 บาท ฐานลักลอบขนไข่เข้าสหรัฐฯ
สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) เปิดเผยในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันศุกร์ว่าตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเท็กซัสได้ตรวจพบคนอย่างน้อย 90 รายจากการลักลอบนำไข่ไก่จากเม็กซิโกเข้าประเทศ ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เอลพาโซ รัฐเท็กซัส ได้กำหนดบทลงโทษทางแพ่งเป็นเงินรวมเกือบ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 133,400 บาท) แก่ผู้ต้องหา 16 ราย ที่พยายามลักลอบนำสินค้าต้องห้าม เช่น ไข่ดิบ เข้ามาในประเทศ บางคนเอาผ้าห่มคลุมไข่ ซ่อนไว้ในยางอะไหล่ หรือแม้กระทั่งผสมกับสิ่งของอื่นเพื่อปกปิด
สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า การนำไข่สด ไก่ดิบ ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกที่ไม่ผ่านการแปรรูป และสัตว์ปีกมีชีวิตเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเสริมว่านักเดินทางควรแจ้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร มีคำสั่งห้ามนำเข้าไข่ดิบจากเม็กซิโก เนื่องจากกังวลเรื่องสุขภาพจากโรคไข้หวัดนกที่รุนแรง
ในสหรัฐฯ ราคาไข่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2022 เนื่องมาจากโรคไข้หวัดนกระบาด และมีรายงานว่าไข่ขาดแคลนท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวาย ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าการที่ผู้บริโภคกักตุนสินค้าจนเกิดภาวะขาดแคลนไข่ทำให้ปัญหาขาดแคลนรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนา เมื่อกระดาษชำระขาดแคลน
ข้อกังวลอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับการนำเข้าไข่ดิบจากเม็กซิโก ได้แก่ ความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคนิวคาสเซิลอันร้ายแรง (VND) ตามรายงานของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ โรคนี้สามารถทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรงต่อระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหารได้ โรคนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับนก และถือเป็น "โรคนกที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก" ตามรายงานของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส
ยังไม่มีกรณีมนุษย์ติดเชื้อโรคนิวคาสเซิลจากการกินไข่ที่ปนเปื้อน จึงไม่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของอาหาร แต่ไก่สามารถติดเชื้อได้ง่าย ขณะที่เป็ดและห่านกลับมีภูมิต้านทานในระดับหนึ่ง





















