ศิลปินเบอร์หนึ่งยังโดน! "ไหมไทย" แฉโดนเทค่าตัว-ฉุนไล่คนดูกลับบ้าน

หมอลำสะเทือน! “ไหมไทย หัวใจศิลป์” ยกเลิกการแสดงกะทันหัน กลางงานใหญ่ที่กาฬสินธุ์ หลังเจ้าภาพเบี้ยวค่าตัว แฟนคลับผิดหวัง-จวกเละ

กลายเป็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจสำหรับแฟนเพลงหมอลำทั่วประเทศ เมื่อศิลปินระดับตำนานและไอคอนของวงการหมอลำอย่าง “ไหมไทย หัวใจศิลป์” ต้องประกาศยกเลิกการแสดงกะทันหันในค่ำคืนที่ผ่านมา ณ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเดิมทีเป็นงานที่แฟนๆ รอคอยกันมาเนิ่นนาน แต่กลับต้องผิดหวังเพราะเหตุผลที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน – เจ้าภาพไม่จ่ายค่าตัวตามที่ตกลงไว้

เรื่องราวเริ่มต้นจากโพสต์หนึ่งบนเพจ “ไหมไทย หัวใจศิลป์” ที่ได้โพสต์ข้อความสั้นๆ แต่แรงสะเทือนวงการว่า

“งานคืนนี้ที่สหัสขันธ์ไม่เล่นนะครับ เพราะเจ้าภาพไม่จ่ายเงิน เสียเวลาศิลปินอันดับ 1 คัก ใครที่ไปก็หากลับบ้านนอนนะครับ อย่าลืมไปทวงเอาเงินค่าบัตรคืนนะครับ”

ข้อความนี้จุดไฟความไม่พอใจของแฟนเพลงจำนวนมหาศาลที่ตั้งตารอคอยการแสดงของศิลปินที่ตนรัก ทั้งจากในพื้นที่และต่างจังหวัด ซึ่งหลายคนลงทุนเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อมาเจอ “พญาหมอลำ” ตัวจริงเสียงจริง พร้อมซื้อตั๋วล่วงหน้าและวางแผนลางานกันมาเพื่อไม่พลาดโชว์นี้โดยเฉพาะ

เสียงแฟนคลับสะท้อนความผิดหวัง

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปไม่นาน คอมเมนต์ของแฟนเพลงก็ทะลักราวกับน้ำป่าหลาก หลายคนแสดงความผิดหวัง บางคนถึงกับบอกว่ารู้สึก “เสียใจและเสียความรู้สึก” กับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น

“จืดหลายเนาะอ้าย อุตส่าห์รอจอมยุทธ”

“เสียค่าน้ำมันมาตั้งไกลเพื่อมาเนิ่งศิลปินอันดับ 1 คักๆ ข่อยมื้อนี้”

“พ่อใหญ่เฮง เอาอีกแล้ว หลายเพื่อละเดือคำเว้าหลายคัก ยังสิเอามาจัดอีกอยู่ จืดหลาย”

“เสียชื่อคนกาฬสินธุ์เบิด”

“คนจัดหวังแต่กำไร ขี้ร้ายโพด”

จากเสียงสะท้อนเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างศิลปินและแฟนๆ อย่างลึกซึ้ง เพราะ “ไหมไทย หัวใจศิลป์” ไม่ได้เป็นเพียงแค่หมอลำธรรมดา แต่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมอีสานที่ขับกล่อมหัวใจของคนบ้านเฮามาเป็นเวลาหลายสิบปี

จากนักร้องข้างเวที...สู่ศิลปินอันดับหนึ่ง

ต้องยอมรับว่าไหมไทยไม่ได้มาง่ายๆ กว่าจะขึ้นมาเป็น “อันดับหนึ่งของวงการหมอลำ” อย่างในทุกวันนี้ เขาผ่านเวทีนับไม่ถ้วน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด้วยความสามารถล้วนๆ ทั้งพลังเสียงที่ทรงพลัง ท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อเพลงที่เข้าถึงใจคนฟัง ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนเพลงทุกเพศทุกวัย

ไม่ใช่แค่ในไทย แต่ชื่อเสียงของเขายังขยายไปไกลถึงต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา หรือกลุ่มแฟนคลับไทยในยุโรปและอเมริกา เรียกได้ว่า “ไหมไทย” คือทูตวัฒนธรรมของอีสานอย่างแท้จริง

คำถามที่ตามมา...ศิลปินควรต้องทนหรือไม่?

เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในวงการบันเทิงไทย โดยเฉพาะในกลุ่มศิลปินท้องถิ่น ที่ต้องพึ่งพาเจ้าภาพในการจัดแสดง เมื่อการตกลงทางการเงินไม่ชัดเจน หรือเจ้าภาพไม่รักษาสัญญา ศิลปินเองต้องเป็นฝ่ายรับกรรม ทั้งความเสียเวลา ความเสียชื่อ และความผิดหวังจากแฟนคลับ

การที่ไหมไทยออกมาโพสต์ตรงไปตรงมา แม้อาจดูแรงในสายตาบางคน แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันคือการส่งเสียงแทนศิลปินอีกหลายคนที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กัน แต่ไม่กล้าพูดออกมา

พลังสนับสนุนจากแฟนเพลงยังเหนียวแน่น

แม้เหตุการณ์นี้จะจบลงด้วยความผิดหวัง แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ “พลังรักจากแฟนเพลง” ที่ยังคงอยู่เคียงข้างไหมไทยเสมอ หลายคนถึงขั้นขอคืนบัตรจากเจ้าภาพ บางรายประกาศไม่ขอสนับสนุนผู้จัดรายนี้อีกต่อไป พร้อมเรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม

“แฟนคลับเราเยอะอยู่แล้วครับ งานไหนไม่แฟร์ เราก็ไม่เล่น มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันคือศักดิ์ศรีของศิลปิน” หนึ่งในข้อความจากทีมงานไหมไทยที่สะท้อนจุดยืนชัดเจน

เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ทั้งสำหรับผู้จัดงาน ศิลปิน และแฟนเพลง ว่า “ความซื่อสัตย์และความโปร่งใส” คือสิ่งสำคัญที่สุดของวงการบันเทิงท้องถิ่น หากขาดสิ่งเหล่านี้ไป ความไว้วางใจก็จะหายไปพร้อมกับศรัทธาที่แฟนๆ มีให้

สำหรับไหมไทย หัวใจศิลป์ แม้คืนนี้จะไม่มีเสียงแคน เสียงพิณ หรือเสียงร้องของเขาดังขึ้นบนเวทีที่กาฬสินธุ์ แต่เสียงของเขายังอยู่ในหัวใจแฟนเพลงเสมอ

และแน่นอนว่า… “หมอลำอันดับหนึ่ง” คนนี้ จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในเวทีต่อไปแน่นอน!