รู้จัก “ทราย สก๊อต” ทายาทสิงห์รุ่น 4 ผู้อุทิศชีวิตให้ทะเลไทย
ทราย สก๊อต หรือชื่อจริงว่า สิรณัฐ สก๊อต วัย 26 ปี คือบุคคลหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในโลกออนไลน์และวงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ไม่เพียงเพราะเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของ "สิงห์ คอร์เปอเรชั่น" และเป็นหลานของ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด แต่เพราะเขาเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่กล้าเลือกทางเดินชีวิตที่แตกต่างจากความคาดหวังของสังคม
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านแอนิเมชันจากสถาบันศิลปะแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Institute of the Arts) ประเทศสหรัฐอเมริกา ทรายไม่ได้เลือกเส้นทางธุรกิจหรือการตลาดตามรอยครอบครัว หากแต่กลับหันมาทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อภารกิจอนุรักษ์ทะเลไทยอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นจากโครงการ "Sea You Strong" ซึ่งก่อตั้งขึ้นด้วยทุนส่วนตัวของเขาเอง จุดมุ่งหมายหลักคือการเชิญชวนชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ให้ร่วมกันเก็บขยะจากชายหาดและทะเล
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทรายได้กลายเป็นนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ที่มีบทบาทโดดเด่น เขาไม่ได้เพียงทำงานเบื้องหลังหรือแสดงจุดยืนผ่านคำพูดเท่านั้น แต่เขายังลงมือทำด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นอย่างมากในปี 2565 คือการว่ายน้ำข้ามทะเลจากอ่าวนางไปยังเกาะปอดะและว่ายกลับ รวมระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร โดยใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง นับเป็นการแสดงออกถึงความรักในธรรมชาติอย่างแท้จริงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมาก
ความสามารถของทรายไม่ได้หยุดอยู่เพียงเรื่องสิ่งแวดล้อม เขายังนำความรู้ด้านศิลปะมาผสมผสานกับการสื่อสารประเด็นสิ่งแวดล้อมผ่านงานสร้างสรรค์ เช่น หนังสั้น "Merman" ที่เขารับบทเป็นมนุษย์เงือก ถ่ายทอดทั้งความงามและปัญหาขยะใต้ทะเล เพื่อส่งสารให้คนรุ่นใหม่และสังคมตระหนักถึงปัญหานี้มากยิ่งขึ้น
จากความตั้งใจและผลงานที่โดดเด่น ทรายจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญอีกขั้นในเส้นทางนักอนุรักษ์ของเขา อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะอยู่ในตำแหน่งที่มีอิทธิพล แต่ก็ยังเลือกลงพื้นที่จริงและใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการสะท้อนปัญหาที่พบ ตั้งแต่ประเด็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ไปจนถึงเรื่องสิทธิแรงงานของเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ยังคงได้รับค่าตอบแทนต่ำและไม่มีสวัสดิการที่เหมาะสม
ไม่นานมานี้ ทรายได้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในโลกออนไลน์ หลังจากที่เขาเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่มีปากเสียงกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบนเรือกลางทะเลไทย เนื่องจากฝ่ายนั้นแสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติอย่างเปิดเผย ทรายได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า "แม้เขาจะมาเที่ยวประเทศเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิทธิ์เหยียดคนไทย" ซึ่งคำพูดนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนจำนวนมากในโลกโซเชียล และถูกแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย
หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน ทรายได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียประกาศยุติบทบาทในกรมอุทยานฯ โดยระบุว่า "ผมเลือกที่จะเสียสละงานที่ผมรักกับตำแหน่งของผม เพื่อโอกาสที่จะสะท้อนเรื่องจริงของปัญหาทะเลทางภาคใต้... เหนือกว่าตำแหน่งของผมคือความรักที่ผมมีต่อทะเล ขอบคุณสำหรับทุกประสบการณ์และผมเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่เสมอ"
คำพูดของทรายแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ เขาไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค และยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าทำภารกิจเพื่อทะเลไทยต่อไป โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่งหรือผลประโยชน์ใดๆ ทราย สก๊อต จึงไม่ใช่เพียงแค่ทายาทของตระกูลผู้มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลงโลกในแบบที่เขาเชื่อมั่น






















