ดราม่า ช่างภาพ จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ช่างภาพท่านหนึ่ง โพสต์ ใน Piyachat Kik Kaelong ดราม่า ช่างภาพ จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สวัสดีครับ ผม ปิยะฉัตร แกหลง ขอโอกาสเรียนชี้แจงบางอย่างสักหน่อย…
คุณเคยประสบเหตุการณ์ในทำนองว่า ทุกอย่างลงล็อคไปหมด อะไรๆ ก็เข้าทางไปหมดอย่างที่เราเรียกกันว่า ”เหมือนถึงคราวเคราะห์“ บ้างไหม? หากเคยก็จะเห็นภาพจากสิ่งที่ผมจะเล่าได้มากขึ้น แต่หากไม่เคยผมก็ขอภาวนาอย่าให้คุณได้ประสบเลย…
จากการที่ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประกาศถอนถอนและประกาศตัดสิทธิ์การเข้าร่วมกิจกรรมของ นายปิยะฉัตร แกหลง (ตัวผม) ดังรายละเอียดที่ปรากฏแก่สาธารณะในวันที่ 8 เมษายน 2568 ไปแล้วนั้น ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นมากมายในหลายทิศทาง
ผมยอมรับตามข้อความในประกาศนั้น ยอมรับโทษตามที่ระบุโดยไม่คิดโต้แย้ง แต่ต้องการแสดงเจตนาโดยเล่าถึงเรื่องราวตามลำดับ
…ยอมรับครับว่าผมผิดจริง แต่ “ไม่ได้มีเจตนาคดโกง”
โปรดพิจารณาไตร่ตรองและตัดสินด้วยดุลยพินิจของท่านเอง
เรื่องราวเป็นดังนี้ครับ :
• ผมนำผู้ฝึกหัดถ่ายภาพของผมเข้าถ่ายภาพเพื่อเรียนรู้เฉพาะขั้นตอนการถ่ายภาพในงานดังกล่าว ซึ่งมีการใช้กล้องถ่ายภาพหลายตัวดังที่หลายท่านได้เห็นกัน หนึ่งในนั้นคือชุดกล้องระดับมาตรฐานทั่วไปซึ่งเป็นของผมเอง โดยที่ผมและผู้ฝึกหัดจะผลัดกันใช้กล้องตัวนี้สลับกันถ่ายภาพไปมาอยู่ตลอดเวลาตามโอกาสเพื่อทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ โดยที่ผมจะคอยกำกับบอกสอนวิธีการถ่ายภาพ ชี้จุด บอกจังหวะ มุมภาพ ปรับตั้งค่า ทำให้ดูแล้วให้ทำตาม ฯลฯ อย่างที่หลายท่านก็น่าจะเคยมีประสบการณ์ลักษณะนี้ร่วมกันกับผมมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ภาพลักษณะเช่นเดียวกับที่ผมถ่าย ซึ่งก็ได้ทำการถ่ายภาพมามากมายในลักษณะสลับกันเป็นช่วงๆ โดยตัวผมจะเน้นที่กล้องตัวอื่นซึ่งมีคุณภาพสูงกว่า ซึ่งได้ทำความเข้าใจระหว่างกันไว้ว่าสามารถนำภาพที่ได้จากกล้องตัวนี้ไปใช้งานได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวกัน
• ไฟล์ภาพทั้งหมดอยู่ที่ผม(เพราะเป็นกล้องของผมเอง) ผมตรวจดูไฟล์ภาพที่ได้แล้วเลือกภาพมาทำการปรับแต่งหลายภาพ ส่วนหนึ่งส่งให้ผู้ฝึกหัดได้ดู มีหนึ่งภาพที่ผมนำมาปรับแต่งลงลายน้ำแล้วโพสต์ลงที่เฟซบุ๊คส่วนตัวในเชิงให้กำลังใจผู้ใช้กล้องและอุปกรณ์ระดับมาตรฐานทั่วไปในการถ่ายภาพ นอกจากนี้ผมยังได้โพสต์ภาพอื่นๆ อีกหลายภาพจากกล้องหลายตัวดังที่เห็นกันไปแล้ว ซึ่งมีความโดดเด่นมากกว่าภาพจากกล้องที่ใช้ร่วมกับผู้ฝึกหัดอยู่พอสมควร
• ในเวลาต่อมาทางสมาคมฯ ได้ติดต่อสอบถามขอคำปรึกษาเรื่องการประกวดในโครงการนี้ ซึ่งผมไม่เคยรับทราบมาก่อนว่าจะมีขึ้น หลังจากนั้นได้ชวนผมเข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินภาพถ่ายในโครงการนี้ ผมตอบตกลง
• ผมโพสต์เชิญชวนให้นักถ่ายภาพร่วมส่งภาพเข้ามาประกวดเยอะๆ เพราะห่วงเกรงว่าจะมีจำนวนผู้ส่งน้อยตามที่กังวลไว้ในคำปรึกษาเบื้องแรก และด้วยเจตนาหวังให้มีผู้ส่งภาพมากๆ จึงได้พยายามเชิญชวนคนใกล้ตัวให้ส่งภาพกัน แน่นอนว่าย่อมรวมไปถึงผู้ฝึกหัดที่ผมฝึกอยู่ด้วย
• ใกล้หมดเขตส่งภาพ ผมได้ชวนผู้ฝึกหัดที่เข้าถ่ายภาพกับผมให้ลองส่งภาพเข้าประกวดเพื่อลองหาประสบการณ์ดู โดยบอกว่าลองส่งภาพนี้ดูละกันเพราะใกล้หมดเวลาแล้ว พร้อมกันนั้นผมได้ส่งภาพดังกล่าวให้ไปเพราะมาจากกล้องตัวนั้นที่ผู้ฝึกหัดใช้อยู่เป็นส่วนใหญ่ (ไฟล์ภาพอยู่ที่ผม ผมเป็นผู้ปรับแต่ง) ด้วยความที่ผมมีภาพนับพันนับหมื่นภาพจากกล้องหลายตัวจึงเกิดความสับสนขึ้น ซึ่งในความเข้าใจของผมคือเป็นภาพที่ผู้ฝึกหัดถ่ายเอง ส่วนผมเป็นผู้ปรับแต่งภาพเพื่อนำไปใช้โพสต์บนเฟซบุ๊คก่อนหน้านี้ <— ข้อนี้ถึงแม้จะไม่มีระบุในกฏกติกาชัดเจนว่าผู้ถ่ายและผู้แต่งภาพต้องเป็นคนเดียวกัน แต่เมื่อพิจารณาในแง่ของความที่กำลังจะทำหน้าที่กรรมการแล้วคงจะไม่เหมาะสม ผมรับเป็นความผิดในส่วนนี้
• ผมยังได้บอกผู้ฝึกว่า “ส่งไปเถอะ ภาพนี้ยังไงก็ตกรอบแรก ไม่ผ่านหรอก เอาแค่ได้ประสบการณ์ในขั้นตอนการส่งภาพประกวดก็พอแล้ว” เพราะผมเห็นภาพถ่ายแจ๋วๆ จำนวนมากอยู่บนเฟซบุ๊ค ทั้งจากผู้ที่รู้จักและไม่รู้จัก อีกทั้งแม้จะสะดุดตาแต่ภาพนี้ก็ยังมีจุดอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ คงไม่ผ่านเข้ารอบแน่ รวมไปถึงมีเจตนาช่วยเพิ่มจำนวนผู้ส่งภาพอย่างที่ได้เชิญชวนสังคมไปก่อนหน้า ผมคิดน้อยเกินไปในแง่นี้
• ผู้ฝึกหัดดำเนินการส่งภาพเข้าประกวดตามคำบอกกล่าวของผมในช่วงเวลาท้ายๆ ของการเปิดรับภาพจนเกือบไม่ทันเวลา (ผมเองยังแอบเสียดายภายหลังว่าน่าจะส่งไม่ทัน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราว) ซึ่งนี่คงไม่แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเท่าใดนัก
• จนถึงขั้นตอนนี้ผมก็ยังเข้าใจว่าภาพนี้ผู้ฝึกหัดได้ทำการถ่ายเองตามที่เล่าไป และผมได้เป็นผู้ส่งภาพให้เองตามความเข้าใจนั้น ผู้ฝึกหัดรับทราบและเข้าใจตามที่ผมได้บอกไป <— ความผิดในเรื่องนี้จึงอยู่ที่ผมเพราะเป็นผู้บอกเอง บกพร่องที่ตัวผม ผู้ฝึกหัดไม่ทราบ
• ในวันตัดสินกลับไม่ปรากฏภาพถ่ายแจ๋วๆ อย่างที่ผมคาดการณ์ไว้มากนัก ภาพนี้จึงเข้ารอบมาเรื่อยๆ โดยมีผมเป็นหนึ่งในกรรมการที่ยกมือให้คะแนน ในส่วนนี้ผมให้เป็นข้อสังเกตว่ากรรมการทุกท่านยกมือให้คะแนนกับภาพนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ในทุกรอบการตัดสิน ไม่ใช่มีเพียงผม ซึ่งผมตัดสินไปตามเนื้อผ้าโดยที่ยังเข้าใจไปเองว่าภาพนี้ไม่ได้ผิดกฏกติกาอย่างไร <—- อย่างไรก็ตาม ในแง่ที่ว่าเพราะมีส่วนในภาพนี้จึงไม่เหมาะสมที่ผมจะยกมือให้คะแนน ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสมและผิดจริง ผมยอมรับผิดในข้อนี้
• สิ้นสุดการตัดสิน ผมเดินทางกลับบ้าน ด้วยความเอะใจผมจึงไล่ย้อนดูเฟซบุ๊คของตัวเอง จึงพบว่าเคยนำภาพนี้ขึ้นมาโพสต์แล้ว ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะมีผลหรือไม่จึงทำการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจะกลายเป็นการแสดงเจตนาไม่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เพราะจนถึงตอนนั้นผมก็ยังเข้าใจว่าภาพนั้นไม่ได้ผิดกติกาแต่อย่างใด ความเห็นของผมคือถ้าผมมีเจตนาจะคดโกงโดยการส่งภาพนี้ผมก็ควรจะเข้ามาลบโพสต์นี้ไปตั้งแต่แรกแล้ว หรืออย่างน้อยก็ก่อนทำการตัดสิน <— นั่นคือเจตนาโดยสัตย์จริงของผม แต่ในเมื่อถูกตัดสินว่าผิดผมก็ยอมรับผิด แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่เจือปนความคดโกงแต่อย่างใด
• ด้วยความที่ไม่แน่ใจ เหมาะสมไหม ถูกต้องหรือเปล่า? ผมมีการปรึกษาพูดคุยว่าเราควรถอนตัวดีไหม แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงดี <—- ในข้อนี้หลายท่านคงมีความเห็นว่ามันก็ไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกแล้วไหม? ผมเรียนตามตรงครับว่าก็ยังเข้าใจไปเองอยู่ว่าไม่ได้ผิดกติกาแต่อย่างใด ข้อนี้ผมยอมรับว่าโง่เง่าและผิดพลาดเองครับ
• สมาคมฯ ติดต่อท้วงติงและทำการไต่สวนอย่างตรงไปตรงมาตามหลักการ ผมชี้แจงให้รายละเอียดไปตามความเข้าใจของผมว่า ภาพนี้ผู้ฝึกหัดเป็นผู้ถ่ายภาพ ซึ่งทางผู้ฝึกหัดก็เข้าใจตามนั้นจากคำบอกกล่าวของผมเช่นกันเพราะไฟล์ภาพทั้งหมดอยู่ที่ผม ผู้ฝึกหัดไม่มีความชำนาญมากพอที่จะแยกแยะหรือจดจำเครื่องบินได้แน่ๆ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้แจ้งขอให้ถอนตัว ซึ่งผมก็ยินดีตกลง และรับทราบด้วยความเศร้าใจว่าได้ทำความเสียหายให้กับสมาคมฯ โดยไม่ได้มีเจตนาหรือตั้งใจ พร้อมกับได้แสดงความเสียใจและแสดงเจตนาที่จะรับผิดชอบแล้ว
• ในเวลาต่อมา ผมไปทำหน้าที่วิทยากรในที่สาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งหลายท่านได้เห็นว่าผมมีท่าทางปกติในแบบของผม พูดจาสนุกสนานเฮฮาดูไม่อนาทรร้อนใจใดๆ ผมขอเรียนให้ทราบว่านับแต่ได้ทราบเรื่องผมเองมีความเศร้าเสียใจอยู่มาก มีอาการนอนไม่หลับฟุ้งซ่าน แต่เมื่อต้องทำหน้าที่ผมก็ต้องรับผิดชอบโดยการทำให้ดีที่สุด หมดเวลาแล้วจึงกลับมาเศร้าต่อไป ซึ่งในเวลานั้นผู้ฝึกหัดได้สอบถามความแน่ใจถึงความเป็นผู้ถ่ายภาพย้ำมาอีกครั้ง ซึ่งผมก็ยังเข้าใจว่าผู้ฝึกหัดเป็นผู้ถ่ายอยู่ดีในฐานะที่เป็นผู้ครองกล้องเป็นส่วนใหญ่ แต่เพื่อลดความคลุมเครือในประเด็นนี้ผมจึงขอตีเป็นว่าภาพนี้เป็นผมถ่าย เพราะไหนๆ ผมก็ได้นำไปโพสต์โดยลงลายน้ำจนสร้างความเข้าใจไปแล้วว่านี่คือภาพของผม ซึ่งผมเจตนาจะแจ้งข้อมูลส่วนนี้เพิ่มเติม แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันเวลา ขอยึดตามข้อวินิจฉัยของทางสมาคมและผมยอมรับผิดในส่วนนี้ครับ
• ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ฝึกหัดถ่ายภาพจะไม่มีความสามารถในการถ่ายภาพได้แต่อย่างใด เพราะยังมีภาพของฝูงบินอื่นๆ ที่สามารถถ่ายได้ในลักษณะเทคนิคเดียวกันปรากฏอยู่ด้วย ท่านที่เคยถ่ายภาพโดยมีผมคอยกำกับอยู่จะทราบดีว่าสามารถถ่ายภาพได้เช่นเดียวกับที่ผมถ่ายมาแล้วเช่นกัน
• สมาคมฯ ออกประกาศอย่างที่ได้ทราบกันในวันที่ 8 เมษายน 2568
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งขอย้ำอีกครั้งว่าข้อความนี้ไม่ใช่การโต้แย้งหรือแก้ตัวจากคำประกาศของทางสมาคมฯ แต่อย่างใด ผมยังคงยอมรับผิดตามประกาศทุกประการ ผมเพียงแต่ต้องการแสดงเจตนาในเรื่องนี้ให้ทราบว่าไม่ได้มีความคิดคดโกงแม้แต่น้อย โดยผมให้เป็นข้อสังเกตไว้ว่า :
• ตัวผม (รวมถึงผู้ฝึกหัด) ไม่ได้ขัดสนจนถึงขนาดต้องเจตนากระทำการคดโกงเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินรางวัลตามมูลค่าดังกล่าว ซึ่งมันไม่คุ้มกันแต่อย่างใดต่อให้เป็นรางวัลสูงสุด มูลเหตุจูงใจของผมคืออะไร เงินหรือชื่อเสียงอย่างนั้นหรือ? ซึ่งก็อย่างที่หลายท่านได้ตั้งข้อสงสัยว่าที่ทำไปนี่มันคุ้มแล้วหรือ ถูกแล้วครับ มันไม่คุ้มแน่นอน ต่อให้เป็นแสนเป็นล้านก็ไม่คุ้ม ผมจะทำไปทำไม
• หากมีเจตนาเช่นนั้นจริง ผมยังมีภาพอีกมากที่มีคุณภาพสูงกว่าภาพนี้ที่โดดเด่นหวังผลได้มากกว่าชัดเจน อีกทั้งอย่างที่บอกว่าภาพนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่ ไม่ผ่านรอบแรกหรอก ผมควรจะส่งด้วยภาพอื่นที่หวังผลได้แน่ๆ ไม่ดีกว่าหรือ?
• ถ้าผมมีเจตนาใช้ตัวแทน (นอมินี)ผมยังมีนักถ่ายภาพเครื่องบินอีกหลากหลายที่น่าจะสมจริงมากกว่าการใช้ผู้ฝึกหัดซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนสมัครเล่นของผมไม่ใช่หรือ?
• ถ้าผมหวังทั้งรางวัลและชื่อเสียง ผมไม่ควรรับหน้าที่กรรมการแล้วส่งภาพลงแข่งเองจะไม่ดีกว่าหรือ? ซึ่งผมเชื่อว่าสิทธิ์ในการส่งประกวดจำนวน 5 ภาพนั้นสามารถหวังผลได้แน่นอน ข้อนี้คงเป็นที่รับรู้โดยทั่วไป ไม่ใช่การโอ้อวดตัวแต่อย่างใด
• ผมรับรู้โดยการโพสต์ประกาศไปล่วงหน้าแล้วว่า เมื่อทำหน้าที่กรรมการแล้วคงไม่พ้นคำติเตียน ผลตอบแทนก็ใช่ว่าจะมากมายอย่างใด แต่ผมก็ยังรับหน้าที่ตามคำชวนนั้นโดยตัดใจจากการเป็นผู้ลงแข่ง (ที่เชื่อว่าหวังผลได้จากรางวัลใดรางวัลหนึ่ง) ที่ผมทำเช่นนั้นเพราะเห็นว่าเป็นรายการภาพถ่ายเครื่องบิน เป็นงานของกองทัพอากาศไทยที่ผมรัก (นี่เป็นเรื่องที่รับรู้กันโดยทั่วไป) ผมจึงยอม ดังนั้นผมจะมีแรงจูงใจในส่วนไหนมากระทำการคดโกง? แต่ยอมรับในความผิดพลาดทั้งปวงที่เกิดขึ้นโดยยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้คิดคดโกงแม้แต่น้อย
ผมทราบดีว่ามีความคิดเห็นที่หลากหลายมุมมอง มีทั้งท่านที่เชื่อในความเป็นผมและให้กำลังใจ มีท่านที่ยังก้ำกึ่ง และแน่นอนว่าจากเรื่องทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้ย่อมมีคำวิจารณ์ที่เผ็ดร้อนเจ็บแสบรวมทั้งคำเรียกบริภาษผมไปต่างๆ นานา ก่อให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งเป็นผลมาจากความเลินเล่อผิดพลาดของผมเอง ผมไม่ถือโทษโกรธท่านเหล่านั้น ได้แต่หวังว่าเหตุเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเองบ้าง
โดยส่วนตัวผมผิดพลาดเองครับ ทุกสิ่งทุกอย่างดูลงล็อคลงตัวในรูปแบบของคราวเคราะห์และเอื้อต่อการเห็นเป็นการคดโกงอย่างมาก แต่ทั้งหมดก็ปรากฏตามที่ผมได้สาธยายไปยืดยาวนี้แล้ว ท่านอาจจะเห็นว่าไม่เนียน ไม่สมจริง จะเชื่อหรือไม่ จะคิดเห็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่อยากเห็นการกระทบกระทั่งแตกแยกด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อนในระหว่างพวกเราชาวไทยนักถ่ายภาพด้วยกันเอง มีฝ่ายโน้นฝ่ายนี้โต้ตอบกันไปมาโดยใช้อารมณ์เข้าโต้เถียงกัน
ดังนั้นทั้งหมดนี้ผมยินดีรับผิดแต่เพียงผู้เดียว โปรดโต้แย้งกันอย่างสร้างสรรค์อย่างที่วิญญูชนพึงกระทำครับ
ท่านจะนิยามตัวผมในเหตุการณ์นี้ว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ สะเพร่า เลินเล่อ ประมาท โง่เง่า ก็ได้ครับ แต่ผมยืนยันได้ว่า “ไม่มีคำว่าจงใจคดโกง” อย่างแน่นอน สามารถตรวจสอบประวัติที่ผ่านมาของผมได้ว่าเป็นเช่นไร
ต่อไปนี้เป็นส่วนสำคัญ :
********************************
ในขณะเขียนข้อความนี้ ผมนั่งอยู่ภายในพระเจดีย์ศรีมหาธาตุ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ซึ่งเป็นวัดใกล้ชิดของกองทัพอากาศ มีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ภายใน
“ข้าพเจ้าขอกล่าวคำสัตย์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งในที่นี้และสากลโลก หากข้าพเจ้า นายปิยะฉัตร แกหลง มีเจตนาจงใจทุจริตคดโกงมาตั้งแต่ต้นทั้ง ก่อน/ในขณะ/หลัง ทำหน้าที่กรรมการตัดสินภาพถ่ายของสมาคมฯ ในโครงการ 88 ปีกองทัพอากาศฯ หรือมีเจตนาคดโกงโดยการร่วมมือกับผู้อื่นนำภาพถ่ายของตนไปส่งเพื่อหวังรางวัลอย่างใดอย่างหนึ่ง (ที่เรียกกันว่า นอมินี) หรือมีเจตนาแอบแฝงทางการค้าอื่นใดแล้วไซร้ ขอให้ข้าพเจ้าจงถึงแก่ความพินาศฉิบหายตายโหงตายห่าอย่างทุกข์ทรมานทุรนทุราย ให้ถึงแก่ความสิ้นเนื้อประดาตัวหมดสิ้นอนาคต ตกนรกหมกไหม้อยู่ในอเวจีมหานรกอย่าได้ผุดได้เกิด ขอให้มีอันเป็นไปอย่าได้ถึงสามวันเจ็ดวันให้รกแผ่นดิน ขอให้ปรากฏในวันนี้พรุ่งนี้ ขอให้มีสภาพเป็นไปอันน่าทุเรศและจงปรากฏเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน
ขอคำสัตย์สาบานนี้จงมีผลปรากฏเฉพาะตัวของข้าพเจ้า จงอย่าได้ย้อนกลับไปอุบัติขึ้นกับผู้ที่กล่าวหาใส่ร้ายโดยไม่เป็นความจริง และผู้ที่ใช้ถ้อยคำเผ็ดร้อนแก่ข้าพเจ้าแต่อย่างใด
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับทุกการกระทำใดใดที่มีต่อข้าพเจ้า ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี“
***********************************
ในฐานะปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่อาจพลั้งเผลอผิดพลาดประมาทเลินเล่อได้ ผมกราบขออภัยต่อทุกท่านที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, กองทัพอากาศ, ท่านนายกสมาคมฯ, คณะกรรมการทุกท่าน, คณะผู้จัดงานรวมทั้งเจ้าหน้าที่ และสังคมโดยทั่วไป
ผมคงไม่ได้มาตอบโพสต์นี้เพราะได้ชี้แจงในรายละเอียดไปแล้ว รวมถึงการกล่าวถ้อยคำสาบานโดยความสัตย์จริง ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ สื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ จะกราบขอบพระคุณด้วยความซาบซึ้งใจหากจะกรุณาแก้ไขข้อความที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้
ผมขอขอบพระคุณทุกกำลังใจจำนวนมากที่ส่งมาถึงโดยไม่ได้ถามไถ่เรื่องราวเพราะเชื่อมั่นในตัวผม ผมจะทรงจำทุกท่านไว้ในฐานะกัลยาณมิตรตราบนานเท่านาน
ย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้โต้แย้ง ยินดีรับผิดตามประกาศ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดใดของสมาคมฯ อีกต่อไป
ในเรื่องนี้ผมเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ขอให้ทุกท่านนำไปใช้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจว่าอย่าทำตาม ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งบางทีก็ง่ายอย่างคาดไม่ถึงและน่าแปลกใจ
ผมจะยังคงใช้ความรู้ความสามารถที่มีปฏิบัติหน้าที่ทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามหากท่านใดไม่สบายใจต้องการขอยกเลิกงานสามารถแจ้งเข้ามาได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมเข้าใจดี หากมีการวางมัดจำไว้ผมจะนำส่งคืนให้เต็มจำนวน
ในฐานะช่างภาพตัวเล็กๆ โดดเดี่ยวเพียงลำพังไร้สังกัดอย่างผม…ขอขอบคุณทุกกำลังใจและความเข้าใจด้วยสำนึกอย่างสุดซึ้ง ขอบคุณแม้ถ้อยคำดูหมิ่นเหยียดหยาม ผมขอน้อมรับคำติเตียน น้อมรับความผิดพลาด น้อมรับโทษ และจะปรับปรุงแก้ไขในข้อบกพร่องเลวทรามเหล่านั้นให้ดีขึ้น
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตรปกป้องคุ้มครองทุกท่านให้ปลอดภัย สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
ปิยะฉัตร แกหลง
11 เมษายน 2568
ประกาศ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์















