เฉลยแล้ว! อดีตแบงก์แฉเส้นทางเงินร้อยล้าน 'ไฮโซเก๊' แผนแยบยล
เปิดโปง! เบื้องหลัง "นายฮอต ไฮโซเก๊" ยอดเงินในบัญชีพุ่ง 500 ล้าน เป็นของจริงหรือกลลวง? รายการโหนกระแสไขทุกข้อสงสัย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในประเด็นที่ร้อนแรงและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์และสื่อโทรทัศน์ คือกรณีของ นายฮอต ไฮโซเก๊ บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไฮโซกำมะลอ” ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูร่ำรวยจนไม่น่าเชื่อ พร้อมกับการมีสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม ที่รวมยอดเงินสูงถึง 500 ล้านบาท! ตัวเลขดังกล่าวกลายเป็นที่สงสัยในหมู่สังคม ว่าบัญชีธนาคารเหล่านั้นเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่? และหากเป็นของจริง เงินจำนวนมหาศาลนี้มาจากแหล่งใด?
เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยและขยายผลอย่างต่อเนื่องในรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ทำหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา รายการดังกล่าวได้เชิญแหล่งข่าวและอดีตพนักงานธนาคารที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ มาเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการเงินของนายฮอต ไฮโซเก๊ รายละเอียดที่ถูกเปิดเผยออกมา ทำให้หลายคนถึงกับตกตะลึง
อดีตพนักงานธนาคารได้เล่าว่า เรื่องราวนี้ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน (ราวปี 2563-2564) นายฮอต ได้เดินทางไปเปิดบัญชีกระแสรายวันกับธนาคารแห่งหนึ่ง จุดประสงค์ของการเปิดบัญชีในครั้งนั้นคือเพื่อซื้อสมุดเช็กมาใช้งาน ซึ่งในตอนแรกดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับเริ่มมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยเกิดขึ้น
นายฮอตได้ใช้สมุดเช็กที่ซื้อมา เขียนเช็กสั่งจ่ายเข้าบัญชีของตัวเอง โดยระบุยอดเงินในเช็กแต่ละครั้งสูงลิ่ว ระดับ 45 ล้าน, 50 ล้าน หรือแม้กระทั่งเกิน 100 ล้านบาทต่อฉบับ! แน่นอนว่าการเขียนเช็กในลักษณะนี้หากเป็นบัญชีที่มีเงินจริงก็จะไม่ผิดแต่อย่างใด ทว่าในกรณีของนายฮอต ไฮโซเก๊ กลับเป็นการเขียนเช็กโดยไม่ได้นำเงินเข้าสู่บัญชีตามวันที่ตัดเช็กจริง หมายความว่า ยอดเงินที่ปรากฏในบัญชีธนาคาร เป็นเพียงตัวเลขที่เกิดจากการเขียนเช็กเข้าบัญชีตนเองเท่านั้น
โดยพฤติกรรมเช่นนี้ เขาได้ทำซ้ำ ๆ หลายครั้ง ด้วยเจตนาสร้างภาพให้ยอดเงินในบัญชีดูสูงผิดปกติ อดีตพนักงานธนาคารรายดังกล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า สมุดบัญชีธนาคารที่นายฮอตนำมาแสดงต่อสาธารณะ ซึ่งมียอดเงินรวมกว่า 500 ล้านบาทนั้น เป็นเพียงผลพวงจากการเคลื่อนไหวของเช็กปลอม ๆ ในระบบบัญชีเท่านั้น ไม่ใช่เงินจริงที่มีอยู่ในบัญชีแต่อย่างใด
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ นายฮอตใช้สมุดบัญชีที่มีตัวเลขสูงลิ่วนี้ไปนำเสนอให้บุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ เช่น ใช้เป็นหลักฐานอ้างความร่ำรวยเวลาขอยืมเงิน เสนอตัวเป็นนักลงทุน หรือแม้กระทั่งในกรณีที่มีความพยายามเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องการเงินลงทุนก้อนใหญ่ การสร้างภาพความมั่งคั่งด้วยตัวเลขจึงกลายเป็นกลยุทธ์หลักของเขา
ทั้งนี้ รายการโหนกระแสยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการธนาคารมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในระบบบัญชีธนาคารที่ถูกต้อง สมุดบัญชีที่ลูกค้าถืออยู่จะเป็นเพียง "บันทึกรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี" เท่านั้น ไม่ใช่หลักฐานยืนยันยอดเงินจริง และหากลูกค้ากระทำการเช่นนี้ โดยการเขียนเช็กโดยไม่มีเงินรองรับ ก็ถือเป็นการทุจริต และเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็ก รวมถึงอาจถูกดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชนอีกด้วย
ผลจากการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ทำให้สังคมออนไลน์ต่างพากันตั้งคำถามถึงวิธีการตรวจสอบและการป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปถูกหลอกด้วยวิธีการปลอมแปลงยอดเงินในสมุดบัญชีลักษณะนี้ หลายคนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน เข้ามาตรวจสอบช่องโหว่และดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน นายฮอต ไฮโซเก๊ ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะชนถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้กระแสความสงสัยของสังคมยังคงร้อนแรงต่อไป หลายฝ่ายยังคงจับตาว่าบทสรุปของกรณีนี้จะเป็นเช่นไร และนายฮอตจะสามารถอธิบายที่มาของยอดเงินมหาศาลนี้ได้หรือไม่
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ของความสำเร็จและความร่ำรวยผ่านโซเชียลมีเดียได้ง่ายกว่าที่เคย คำเตือนสำคัญที่สังคมควรตระหนักคือ "อย่าหลงเชื่อเพียงภาพลักษณ์ภายนอก ควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจเชื่อใจหรือทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ"
อ้างอิงจาก: ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการโหนกระแส















