"ทรัมป์" เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 104%
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำของอเมริกา ได้ประกาศใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากหลายสิบประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บภาษีสินค้าจีนมากถึง 104% ซึ่งส่งผลทำให้สงครามการค้าโลกที่เลวร้าย ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก...
หลังจากที่มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า จากจีน 10% มีผลบังคับใช้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน โดยอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากผู้ส่งออก เช่น สหภาพยุโรปหรือญี่ปุ่น พุ่งสูงขึ้นอีกเมื่อเวลา 00.01 น. ของวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น]
"จีน" ซึ่งเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจ รายใหญ่ที่สุดของวอชิงตัน แต่ก็เป็นหุ้นส่วนทางการค้ารายใหญ่เช่นกัน ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้าของอเมริกา นับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวนั้น สูงถึง 104% เลยทีเดียว...
เมื่อวานนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ทรัมป์กล่าวว่า "รัฐบาลของผม กำลังดำเนินการจัดทำข้อตกลงพิเศษ กับหุ้นส่วนทางการค้า" โดยทำเนียบขาว กล่าวว่า "เราจะให้ความสำคัญกับพันธมิตร เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นอันดับแรก!!"
"จามีสัน กรีเออร์" เจ้าหน้าที่ด้านการค้าระดับสูงของทรัมป์ กล่าวต่อวุฒิสภาด้วยว่า "อาร์เจนตินา เวียดนาม และ อิสราเอล เป็นกลุ่มประเทศที่เสนอลดภาษี" และ "ผมบอกคุณได้เลยว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเรียกร้อง ให้เราเลิกสนใจพวกเขา..." และ "เหตุที่เราต้องขึ้นภาษีจีนมากขนาดนี้ เพราะพวกเขาเมินคำเตือนของเรา ซึ่งเราจะใช้มาตรการตอบโต้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเรา!!"
ก่อนหน้านี้ จีนได้ตอบโต้แผนการเก็บภาษีอเมริกา โดยเรียกเก็บในอัตรา 34% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น]
ทรัมป์เชื่อว่านโยบายของเขา จะสามารถช่วยฟื้นฐานการผลิตที่สูญเสียไปของอเมริกาได้ โดยบังคับให้บริษัทต่างๆย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกา แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและนักเศรษฐศาสตร์หลายคน ตั้งคำถามว่า "นโยบายนี้จะเกิดขึ้นได้เร็วเพียงใด? หรือ จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่?" โดยเตือนว่า "เงินเฟ้อจะสูงขึ้น เนื่องจากภาษีดังกล่าว ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น"















