แซ่บต่อไม่รอแล้วนะ เจ๊กันย์ ดอนเมือง ประกาศตัดขาด ไม่ขอร่วมงานอดีตเมียหมอ
"เจ๊กันย์ ดอนเมือง" ประกาศชัด ขอยุติบทบาทช่วยเหลือ "อดีตเมียหมอ" หลังถูกพาดพิงเป็นคนหิวแสง กลายเป็นดราม่าร้อนโซเชียล!
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่าร้อนแรงที่กำลังถูกพูดถึงในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง สำหรับกรณีที่ "เจ๊กันย์ ดอนเมือง" หรือ "กรรณิกา สุทธิ" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังผู้เป็นที่รู้จักจากการช่วยเหลือผู้คนในหลากหลายกรณี ได้ออกมาโพสต์ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการขอยุติการช่วยเหลือ "อดีตเมียหมอ" ที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวในรายการโหนกระแส ออกมาเปิดใจถึงปัญหาการแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกกับอดีตสามี ซึ่งเป็นคุณหมอ
เรื่องราวเริ่มต้นจากที่ "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ได้พยายามติดต่อ "เจ๊กันย์ ดอนเมือง" เพื่อขอความช่วยเหลือให้อดีตภรรยาของคุณหมอที่กำลังตกงานและประสบปัญหาทางการเงิน โดยเจ๊กันย์เอง แม้จะไม่รู้จักกับอดีตเมียหมอมาก่อน แต่ด้วยความเห็นใจในฐานะ "มนุษย์แม่" ด้วยกัน เมื่อได้รับการประสานผ่านรุ่นน้องที่รู้จัก จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที ด้วยความหวังว่าจะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ฝ่ายหญิงสามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างมั่นคง
ในตอนแรก เจ๊กันย์ได้มีการพูดคุยและไลฟ์สดร่วมกับอดีตภรรยาของคุณหมอ โดยตั้งใจว่าจะช่วยเปิดโอกาสในการหารายได้ผ่านการไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ รวมถึงยังมีการเสนอให้อุ้มลูกมาช่วยงานที่โรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นเดียวกัน เจ๊กันย์เผยว่า ตนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าอดีตภรรยาของคุณหมอเป็นคนที่มีการศึกษาสูง และเพียงแค่ได้รับข้อมูลจากรุ่นน้องว่าฝ่ายหญิงกำลังตกงาน จึงอยากชวนมาร่วมงานโดยเปิดโอกาสให้นำลูกมาด้วยได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการไลฟ์ร่วมกันไปเพียงไม่นาน เรื่องราวกลับกลายเป็นดราม่าร้อนขึ้นมา เมื่อเจ๊กันย์ได้รับรู้ว่าฝ่ายหญิงรู้สึก "ไม่สบายใจ" ที่ต้องร่วมงานกับตน โดยให้เหตุผลว่ารู้สึกอึดอัดที่จะต้องทำงานร่วมกับคนที่ถูกมองว่า "หิวแสง" และ "เสือกเรื่องคนอื่นไปทั่ว" นอกจากนี้ ยังมีการสืบประวัติของเจ๊กันย์จากโซเชียลมีเดีย และนำไปพูดคุยกับรุ่นน้องที่เป็นคนกลางประสานงาน ทำให้เจ๊กันย์รู้สึกผิดหวังและเสียใจอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ เจ๊กันย์จึงได้ออกมาโพสต์ชี้แจงอย่างละเอียดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุชัดเจนว่า ตนขอไม่รับงานให้กับอดีตภรรยาของคุณหมอรายนี้อีกต่อไป พร้อมยืนยันว่าก่อนหน้านี้ ตนไม่ได้เป็นผู้ติดต่อฝ่ายหญิงก่อน แต่เป็นการรับปากช่วยเหลือจากการประสานงานของรุ่นน้องที่รู้จักกัน ซึ่งเจ๊กันย์ย้ำว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้มีเพียงความหวังดีและเห็นใจในฐานะแม่คนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแต่อย่างใด
เจ๊กันย์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกสงสาร "ต้นอ้อ" ที่เป็นคนกลางประสานงานให้ เพราะต้องมาถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ เช่น "อยากได้เท่าไหร่พูดมาเลย" รวมถึงยังโดนกล่าวหาว่าเป็น "คนหิวแสง" ไปด้วย แม้ว่าในความเป็นจริง ต้นอ้อก็เพียงแค่หวังดีอยากช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ
ท้ายที่สุด เจ๊กันย์ประกาศอย่างหนักแน่นว่า จากนี้ไปหากใครสนใจติดต่ออดีตภรรยาของคุณหมอรายนี้ สามารถติดต่อได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านตนอีกต่อไป เพราะเจ๊กันย์เอง "เข็ด" กับเหตุการณ์นี้ และไม่ขอรับเคสนี้อีกแล้ว พร้อมทิ้งท้ายด้วยแฮชแท็กเด็ด #ดราม่าวิ่งชนกุทุกวัน สะท้อนถึงความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องเจอกับดราม่ารายวัน
กรณีนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญของทั้งเจ๊กันย์และสังคมในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในเรื่องของการช่วยเหลือผู้อื่นที่บางครั้ง ความหวังดีของเรากลับกลายเป็นการก้าวล่วงพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเต็มเปี่ยมด้วยเจตนาดี แต่ก็อาจกลายเป็นข้อครหาได้ในภายหลัง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวโซเชียลออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย หลายคนแสดงความเห็นใจเจ๊กันย์ ที่ยื่นมือเข้าช่วยด้วยความหวังดี แต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวที่บั่นทอนจิตใจ ขณะที่บางส่วนก็เข้าใจมุมมองของฝ่ายอดีตเมียหมอ ที่อาจไม่สบายใจจากความแตกต่างของทัศนคติและมุมมองต่อการทำงาน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของการช่วยเหลือคนในสังคมยุคปัจจุบัน ที่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกและบริบทของผู้ถูกช่วยเหลืออย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความหวังดีของเรากลายเป็นภาระหรือความอึดอัดใจต่อผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ
อ้างอิงจาก: ขอบคุณภาพจากFB: กรรณิกา สุทธิ

















