หลอกเก่ง! เปิดยอดเงินไฮโซเก๊โชว์ล่อตาสาว ๆ ตัวเลขที่ทำเอาตะลึง
เปิดประสบการณ์ตรง! หญิงรายหนึ่งเผยรู้จัก “ไฮโซเก๊” ผ่านแอปหาคู่ เจอเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวง ตั้งแต่เรื่องรักจนถึงโชว์เงินอวดรวย
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมกำลังให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีของชายที่ถูกเรียกว่า “ไฮโซเก๊” หรือ “ท่านทิพย์” ที่ขณะนี้ตกเป็นข่าวฉาวเรื่องการแอบอ้างเป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ว่าตนเองมีความสนิทสนมกับบุคคลสำคัญ เพื่อหลอกลวงประชาชน และในที่สุดก็มีเหยื่อจำนวนไม่น้อยออกมาเล่าประสบการณ์ตรงของตนเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวรายหนึ่งที่กล้าเปิดใจเล่าผ่านเพจดังอย่าง “โหนกระแส”
หญิงสาวรายนี้เล่าว่า ตัวเธอเองได้รู้จักกับชายคนดังกล่าวเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงเวลานั้น ตอนเริ่มต้นบทสนทนา ทั้งสองพูดคุยกันในหัวข้อเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งเธอก็รู้สึกว่าชายรายนี้เป็นคนที่มีความคิด ทัศนคติค่อนข้างดี พูดจาน่าสนใจ ทำให้การสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่นและดูเหมือนจะไปได้สวย จนถึงขั้นที่ทั้งคู่ได้นัดเจอกันเพื่อไปทานข้าวร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันที่นัดหมาย ฝ่ายชายกลับเบี้ยวไม่มาตามนัดโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้การติดต่อสื่อสารกันระหว่างทั้งสองคนห่างหายไปตามเวลา แต่แล้วอยู่ๆ เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ชายรายนี้ก็กลับมาทักเธออีกครั้ง และครั้งนี้พวกเขาได้ตกลงปลงใจนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ในมื้ออาหารครั้งนั้น ทั้งสองได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ฝ่ายชายเริ่มเปิดประเด็นเล่าเกี่ยวกับแฟนเก่าของตน ซึ่งบังเอิญเป็นรุ่นน้องของหญิงสาวรายนี้เอง โดยเขารู้ดีว่าหญิงสาวรู้จักกับแฟนเก่าของเขา แต่ก็ยังคงเล่าให้ฟังอย่างไม่เกรงใจ เธอจึงรู้สึกว่า ชายรายนี้ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเท่าที่ควร ถึงอย่างนั้น เธอก็ยอมรับว่าทัศนคติในด้านอื่นๆ ของเขานั้นดูดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความสุภาพในการพูดจา การดูแลเอาใจใส่ และบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ จนไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงเชื่อคำพูดของเขา
ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งทานข้าวอยู่นั้น ก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามชายรายนี้ว่า เขามากับใคร ซึ่งเขาขอตัวไปคุยกับกลุ่มผู้หญิงดังกล่าวสักครู่ ก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะและบอกกับหญิงสาวว่า กลุ่มผู้หญิงเหล่านั้นเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานสายการบินที่เขารู้จักกันดี และเมื่อถึงเวลาเช็กบิลค่าอาหาร เขาก็กล่าวว่าผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นได้จ่ายเงินค่าอาหารให้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อทานข้าวเสร็จ ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยชายรายนี้บอกว่าขามาที่ร้านเขาให้คนขับรถส่วนตัวมาส่ง แต่ขากลับเขาจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เพราะไม่อยากรบกวนคนขับรถ สร้างความสงสัยเล็กน้อยให้กับหญิงสาว แต่เธอก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนักในตอนนั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนั้น เธอสังเกตเห็นพฤติกรรมในโลกโซเชียลของชายรายนี้เริ่มแปลกขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในอินสตาแกรม ที่มักโพสต์ภาพอวดอ้างความร่ำรวย ไม่ว่าจะเป็นภาพเงินสดเป็นฟ่อนๆ ทองคำแท่งกองโต ไปจนถึงสมุดบัญชีธนาคารที่โชว์ยอดเงินหลักร้อยล้านบาท ซึ่งเธอมองว่าการกระทำเช่นนี้ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะหากเป็นคนรวยจริงๆ ก็คงไม่จำเป็นต้องมาโพสต์โอ้อวดให้คนอื่นเห็นเช่นนี้
นอกจากนี้ ตอนที่พูดคุยกัน ชายรายนี้ยังเสนอไอเดียธุรกิจ โดยบอกว่าอยากเปิดร้านคาเฟ่ และชักชวนให้เธอมาเป็นผู้จัดการร้าน โดยอ้างว่าจะให้เงินเดือนมากกว่าที่เธอได้รับอยู่ในขณะนั้นถึง 3 เท่า แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เพราะรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เธอให้เหตุผลว่า หากเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยจริง ไม่น่าจะต้องมาหาผู้จัดการร้านด้วยวิธีการแบบนี้ และไม่จำเป็นต้องโอ้อวดเรื่องเงินทองจนเกินงาม
เหตุการณ์ที่เธอได้พบเจอกับ “ไฮโซเก๊” จึงกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้เธอตระหนักได้ว่า ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันหาคู่ อาจจะมีคนมากมายที่แสร้งสร้างภาพเพื่อหลอกลวงผู้คน ทั้งในเรื่องของฐานะการเงิน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญ เธอจึงอยากเตือนให้ทุกคนระมัดระวัง ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลลวงเช่นเดียวกับเธอ
เรื่องราวของเธอเป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนจากผู้ที่เคยตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยความน่าเชื่อถือจากการสร้างภาพลักษณ์หลอกลวง และในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยกระตุ้นเตือนสังคมให้ตระหนักถึงภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้แต่คนที่ดูน่าเชื่อถือที่สุด ก็อาจกลายเป็นผู้ที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อหลอกเอาเงินหรือผลประโยชน์อื่นๆ จากผู้บริสุทธิ์ได้อย่างแนบเนียน








