"โชเฟอร์หื่น" บังคับสาวกินบวบถูกรวบตัวแล้ว!..อ้างสาวเป็นฝ่ายรุกและมีใจให้
"โชเฟอร์หื่น" บังคับสาวกินบวบถูกรวบตัวแล้ว!..อ้างสาวเป็นฝ่ายรุกและมีใจให้ ตอนนี้แอปโบล์ได้แจ้งระงับบัญชีอย่างถาวรแล้ว ทั้งนี้จากเหตุการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทาง นส.ยุ้ย (นามสมมติ) วัย 24 ปี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่า เธอถูกโชเฟอร์หื่นบังคับให้ใช้ปากสำเร็จความใครให้ หลังเธอเรียกรถกลับจากบาร์โฮสต์ในเมืองพัทยา โดยตอนนั้นก็มีอาการเมาหนัก พอใกล้เช้าจีงได้รีบเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา แต่กลับถูกไล่ให้ไปหาหลักฐานมาเอง สร้างความกังวลใจให้เธอเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ สว.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสจนรู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาพบที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ทราบชื่อภายหลัง คือ นาย เอ็ม (นามสมมติ) อายุ 43 ปี โดยยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างถึงจริง
ทั้งนี้ นายเอ็ม ก็อ้างว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้เสียหายแจ้ง ตนไปรับน้องผู้เสียหายจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง หลังจากขึ้นรถแล้วจึงได้พูดคุยกับน้องในเชิงลักษณะจีบกัน และขณะที่อยู่ในรถก็มีการพูดคุยหยอกล้อกันไปมา ทำให้ตนรู้สึกว่าสาวน่าจะมีใจให้กระทั่งใกล้จะถึงที่พัก น้องบ่นหนาว เลบหยิบเอาผ้าห่มหลังรถมาห่มให้ จังหวะนั้นทำให้ได้ใกล้ชิดกับน้องผู้เสียหาย ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาว กลิ่นตัวหอม ทำให้ตนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนจะสปาร์คกัน ทางน้องผู้เสียหายเป็นฝ่ายรุกตนก่อน ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด ไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะกลัวทางฝ่ายหญิงจะเสียหาย
ทางเจ้าหน้าที่ได้ถามกลับไปว่า ถ้าฝ่ายหญิงยินยอมแล้วทำไมไม่เข้าม่านรูด นายเอ็มอ้างว่าไม่ได้คิดจะมีอะไรแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีถุงยางอนามัย พอสำเร็จความใครทำให้ได้สติขึ้นมา แต่ฝ่ายหญิงไม่ได้โวยวายอะไร ทั้งยังพูดคุยกันตามปกติถึงเรื่องที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดด้วย ซึ่งตนก็เอ่ยปากว่าจะไปส่งให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่ให้ผู้เสียหายหาหลักฐานมาเองนั้น มันน่าจะเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากผู้เสียหายอยู่ในอาการมึนเมามาก จึงให้นั่งพักและรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะได้แจ้งความ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สักพักก็ไม่พบกับผู้เสียหายแล้ว กระทั่งทราบอีกทีเมื่อเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในช่วงกลางดึก ทั้งนี้ก็ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่รับแจ้งความแต่อย่างใด














