ทีมกู้ภัยเจอสัญญาณชีพใต้ซากตึก สตง. แต่ติดอุปสรรค ไปไม่ถึง ผู้ว่าฯ ชัชชาติออกมาแถลงขอโทษแล้ว
ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่ม ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหว โดยระบุว่าแม้เจ้าหน้าที่จะยังไม่สามารถเข้าถึงผู้ที่คาดว่าติดอยู่ภายในได้ แต่ทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าดำเนินภารกิจอย่างเต็มที่และไม่ย่อท้อ
เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 4 เมษายน 2568 บริเวณกองอำนวยการร่วม ณ สน.บางซื่อ ห้าง JJ Mall นายชัชชาติ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากกรุงเทพมหานคร ได้แก่ รศ.ทวิตา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร และนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่อาจยังคงติดอยู่ใต้ซากตึกถล่ม
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ พบว่าน้ำหนักของซากตึกที่พังลงมานั้นอาจสูงถึงกว่า 40,000 ตัน การรื้อถอนโครงสร้างจึงมีความซับซ้อนสูง ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการค้นหา ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังและใช้เวลาอย่างมาก ซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาในการรื้อย้ายทั้งหมดประมาณ 30-60 วัน
เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเศษซากปูนจากบริเวณที่พบสัญญาณชีพต้องสงสัยแล้วประมาณ 20 ตัน อย่างไรก็ตาม ยังคงเจออุปสรรคจากโครงสร้างเหล็กหนาแน่นและโพรงแคบ ทำให้การเข้าถึงจุดเป้าหมายทำได้ยาก ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินงานด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น แบคโฮ และเครื่องตัดคอนกรีต พร้อมกับการเตรียมความพร้อมของทีมกู้ชีพเผื่อพบสัญญาณเพิ่มเติม
ทีมค้นหาได้พบโพรงขนาดใหญ่บริเวณจุด C ด้านขวาหลังของอาคาร ซึ่งเชื่อว่าเป็นโถงลิฟต์ และพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ร่าง แต่ยังไม่สามารถนำออกมาได้ เนื่องจากโครงสร้างที่พังทับมีลักษณะไม่เสถียร ต้องอาศัยความระมัดระวังสูงสุดในการดำเนินการ
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า แม้จะยังไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ได้เพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงมีกำลังใจและทำงานอย่างสุดความสามารถ โดยมีกำลังใจจากความร่วมมือ ความพยายาม และกำลังใจจากประชาชน รวมถึงการสนับสนุนจากต่างประเทศ เช่น เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยที่ได้เข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิธีปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.30 น. มีการนำสุนัข K-9 เข้าไปช่วยตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติในการดำเนินการค้นหา หลังจากเครื่องจักรหนักเข้าเคลียร์พื้นที่ ทีม K-9 จะเข้าไปตรวจสอบหาสัญญาณชีพหรือร่องรอยของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด
ปลัดกรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข้อมูลอย่างรอบคอบและถูกต้อง โดยเฉพาะหลังมีข้อมูลเท็จในโซเชียลมีเดียที่นำภาพจากประเทศอื่น เช่น เมียนมา มาใช้แอบอ้างว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน สร้างความสับสนและความตื่นตระหนกในสังคม
ขณะเดียวกัน รศ.ทวิตา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ ได้กล่าวถึงการดูแลด้านจิตใจของญาติผู้ติดค้าง โดยมีทีมจิตแพทย์ประจำ 2 ทีมเพื่อพูดคุยและให้กำลังใจญาติอย่างต่อเนื่อง และยังมีทีมแพทย์เฝ้าระวังอาการของผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาจากการปฏิบัติการค้นหา เจ้าหน้าที่พบว่าหลายครอบครัวมีภาวะเครียดจากความไม่แน่นอน และความหวังที่สลับกับความผิดหวังอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นความเคลื่อนไหวของเครื่องจักร
การทำงานในเหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย และแทบจะไม่มีแบบจำลองจากที่ใดในโลกมากำหนดรูปแบบการทำงานได้ จึงต้องอาศัยการวางแผนหน้างานร่วมกับประสบการณ์ ความชำนาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การค้นหาและกู้ภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สุดท้าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยืนยันว่า ความพยายามของเจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ได้สูญเปล่า แม้ผลลัพธ์จะยังไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่การร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเสียสละ ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นในการปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนอย่างแท้จริง
















