หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ส่งออกไทยสะดุ้ง!ทรัมป์ขึ้นภาษีไทย 36% ผู้ส่งออกเตรียมรับมือ

เนื้อหาโดย zzz1111

ทางรอดเศรษฐกิจไทย หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 36%: วิกฤตและโอกาสที่ต้องเร่งปรับตัว

บทวิเคราะห์: ผลกระทบของกำแพงภาษีสหรัฐฯ ต่อไทย และแนวทางรับมือ

ในช่วงที่ผ่านมา การเมืองระหว่างประเทศส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะนโยบาย "America First" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งเน้นปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศสหรัฐฯ ล่าสุด การประกาศใช้มาตรการ "ภาษีพื้นฐาน" (Baseline Tariff) 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ และ "ภาษีต่างตอบแทน" (Reciprocal Tariff) ที่มุ่งเป้าไปยังประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสูง ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก

 

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายนี้ โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐฯ ต้องเผชิญกำแพงภาษีสูงถึง 36% ทำให้เกิดความท้าทายสำคัญต่อภาคการส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

 

- เหตุผลเบื้องหลังมาตรการภาษีที่แข็งกร้าวของสหรัฐฯ

ทรัมป์มีความเชื่อที่ชัดเจนว่าการขาดดุลการค้าเป็นสิ่งที่เลวร้าย เพราะสหรัฐฯ สูญเสียทรัพยากรและความมั่งคั่งให้กับประเทศคู่ค้า การตั้งกำแพงภาษีจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น และส่งเสริมให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันหันมาใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศแทน

มาตรการนี้ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองของทรัมป์ ที่ต้องการสนับสนุนกลุ่มแรงงานในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้กำแพงภาษีเป็นเครื่องมือต่อรอง เพื่อกดดันให้ประเทศคู่ค้าต้องยอมเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ มากขึ้น

- ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยวิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไข

1. การส่งออกไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน

สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้แก่:

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (16.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

เครื่องจักรและส่วนประกอบ (10.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง (4.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ยานยนต์และชิ้นส่วน (2.60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อัญมณีและโลหะมีค่า (1.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

การถูกเก็บภาษีสูงถึง 36% ทำให้สินค้าของไทยแพงขึ้นในตลาดสหรัฐฯ และอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากประเทศอื่นที่ได้รับภาษีต่ำกว่า เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย หรือเม็กซิโก

2. การชะลอตัวของภาคการผลิตและการจ้างงาน

หากการส่งออกหดตัวลง โรงงานที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ อาจต้องลดกำลังการผลิต ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะภาคอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสิ่งทอ

3. การลดลงของเงินตราต่างประเทศ และผลกระทบต่อค่าเงินบาท

การส่งออกที่ลดลงจะส่งผลต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย อาจทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว

4. นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในไทย

ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ อาจทำให้นักลงทุนชะลอแผนการลงทุนใหม่ในไทย หรือพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีสูงเช่นไทย

- ทางรอดของเศรษฐกิจไทย กลยุทธ์ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นวิกฤตที่ท้าทาย แต่ก็ยังมีแนวทางที่ไทยสามารถดำเนินการเพื่อรับมือกับผลกระทบนี้ได้

1. ใช้การเจรจาทางการทูตเพื่อลดผลกระทบ

รัฐบาลไทยควรใช้ช่องทางการทูตเพื่อเจรจากับสหรัฐฯ ขอให้พิจารณาลดหรือยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าบางประเภท รวมถึงทำความเข้าใจถึงเกณฑ์การคำนวณภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐฯ เพื่อหาช่องทางผ่อนปรน

2. ขยายตลาดใหม่ นอกเหนือจากสหรัฐฯ

ไทยต้องเร่งหาตลาดใหม่ เช่น จีน สหภาพยุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ มากเกินไป

3. พัฒนาอุตสาหกรรมให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

รัฐบาลและภาคเอกชนควรร่วมมือกันลงทุนใน R&D เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่า ลดการพึ่งพาสินค้าราคาถูกที่แข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว

4. นำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาช่วยลดต้นทุน

การนำ AI, IoT และระบบอัตโนมัติมาใช้ในภาคการผลิตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดโลก

5. กระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ

รัฐบาลควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs

6. ควบคุมเสถียรภาพของค่าเงินบาท

ธนาคารแห่งประเทศไทยควรติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และดำเนินนโยบายทางการเงินที่ช่วยลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

แม้ว่าการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะเป็นแรงกดดันมหาศาลต่อเศรษฐกิจไทย แต่ก็เป็นโอกาสให้ไทยเร่งปรับตัว ลดการพึ่งพาตลาดเดียว และพัฒนาเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น ประเทศไทยต้องเดินหน้าอย่างมียุทธศาสตร์ เน้นการกระจายตลาด ยกระดับอุตสาหกรรม และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน

 

 

เนื้อหาโดย: zzz1111
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: zerotype, worldtravel
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
3 โรงแรมชื่อดังในประเทศไทย ที่ถูกยกให้เป็นโรงแรมที่หรูหรามากที่สุดทึ่งทั่วไทย : "สะพานชลมารควิถี" หรือสะพานเลียบชายทะเลชลบุรีเลขเด็ด "อ.น๊อตตี้" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..มาอย่างไว! รีบส่องได้เลยอาหารหมักดองที่เหม็นที่สุดในโลกสหพันธ์ฯ วอลเลย์บอลเวียดนามรวมหัวปกปิดความจริง !!ค้นหา 100 ครั้ง พบตัวเอง 1 ครั้ง"มาย-อาโป" ชวนแฟน ๆ เตรียมทิซชู ดูซีรีส์ "Shine" ตอนจบ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
3 โรงแรมชื่อดังในประเทศไทย ที่ถูกยกให้เป็นโรงแรมที่หรูหรามากที่สุดเลขเด็ด "อ.น๊อตตี้" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..มาอย่างไว! รีบส่องได้เลยกระแส “แบน ปตท.” ในกัมพูชา กลับกลายเป็นกระแสไวรัล – คนแห่ใช้บริการแน่นกว่าเดิม จนชาวเสียมเองยังงง!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นี่คือจุด “แย่ ๆ” ทางการเมืองของกัมพูชา — ประเด็นที่ได้รับการวิจารณ์ค่อนข้างมาก ทั้งจากภายนอกและภาคประชาสังคม:นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะกินทุเรียน 5.5 โล หลังนำขึ้นเครื่องบินไม่ได้รมว.กลาโหมจีนขู่ว่าจะยึดไต้หวันอีกครั้ง!!หญิงสูงอายุถูกเพื่อนร่วมห้องฆ่าตายคาบ้านพักคนชรา
ตั้งกระทู้ใหม่