ดราม่ามาไม่หวั่น! ‘ชัชชาติ’ รับคำวิจารณ์ ปม ‘สร้างภาพ’

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กของพรรคการเมืองหนึ่งได้โพสต์ข้อความวิจารณ์นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยแนบภาพขณะที่ผู้ว่าฯ นั่งมองเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งกู้ชีวิตผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ตึกถล่มในเขตจตุจักร พร้อมกับแคปชั่นที่มีใจความว่า "ผู้ว่าฯ แห่ง Public Relations (PR) ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ พาตัวเองเข้าสู่แสง PR แม้แต่การจัดการตึกถล่มก็ยังไลฟ์" ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ "กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" เพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่าภาพที่ถูกเผยแพร่นั้นเป็นภาพที่ตนเองนั่งอยู่บนชั้น 5 ของอาคารจอดรถ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพื้นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างชัดเจน จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทีมงานหลายคนใช้เป็นจุดพัก นั่งรับประทานอาหาร และวิเคราะห์สถานการณ์ ตนเองไม่ได้ตั้งใจให้ภาพออกมาเป็นเช่นนั้น และไม่ทราบว่ามีใครเป็นคนถ่ายภาพดังกล่าว

นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ภาพนั้นไม่มีอะไรเลย ผมนั่งกินข้าวธรรมดาเหมือนคนอีกหลายร้อยคนที่อยู่ในไซซ์งาน และอาจจะมีคนแอบถ่ายรูปไป หรือบางทีผมอาจจะนั่งเฉย ๆ ก็ได้ ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ ผมยอมรับได้อยู่แล้ว สิ่งไหนที่จริงก็จะนำไปปรับปรุง แต่อะไรที่ไม่เป็นความจริงก็ปล่อยผ่าน"

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครยังกล่าวถึงข้อกล่าวหาที่ระบุว่า "เป็นผู้ว่าฯ สร้างภาพ" ว่า "แล้วแต่เลยครับ ผมไม่ได้ถ่ายเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายภาพนี้ออกไป ผมยังงงอยู่เลย แต่ผมไม่ได้มีเจตนา PR อะไรทั้งนั้น จริง ๆ แล้วผมเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว พยายามเข้าออกข้างหลัง ไม่ต้องการให้เป็นจุดสนใจ และเป้าหมายหลักของผมคือการทำงานให้ดีที่สุด ไม่ใช่การสร้างภาพอย่างที่ถูกกล่าวหา"

ด้านความคิดเห็นของประชาชนบนโลกออนไลน์แบ่งออกเป็นสองฝ่าย บางส่วนเห็นด้วยกับเพจที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และมองว่านายชัชชาติให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากกว่าการปฏิบัติงานจริง ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากนายชัชชาติลงพื้นที่จริงและทำงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย และยังคงมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสื่อออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติยืนยันว่าจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนต่อไป และเปิดกว้างต่อทุกความคิดเห็น ทั้งในแง่บวกและลบ เพื่อพัฒนาแนวทางการบริหารงานของกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้น