หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เมียนมาร์ให้วันที่31มีนาคม-6เมษายนเป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติ.

เนื้อหาโดย ชตระกูล ศรีสวัสดิ์

ณ ตอนนี้ วิกฤติปัจจุบันที่เมียนมาร์ก็หนักไม่ใช่น้อย ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมใต้ซากปรักหักพังก็เริ่มริบหรี่ลงเรื่อยๆ

ชาวท้องถิ่นจำนวนมาก ยังคงยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติหรือขนส่งสิ่งของจากที่อื่นมายังมัณฑะเลย์ สถิติผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการของเมียนมาร์ยังคงอยู่ที่ ผู้เสียชีวิต 1,700 ราย บาดเจ็บ 3,400 ราย และสูญหายประมาณ 300 ราย

รัฐบาลเมียนมาร์ประกาศให้วันที่ 31 มีนาคม ถึง 6 เมษายนเป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติ โดยมีการลดธงชาติครึ่งเสาทั่วประเทศเพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อแผ่นดินไหว

หากพูดถึงเวลาในการกู้ภัย โดยทั่วไปอัตราการรอดชีวิตของผู้ติดอยู่จะสูงที่สุดในช่วงสามวันแรก และช่วงเวลานี้เรียกว่า “72 ชั่วโมงทอง” ตัวอย่างเช่น ในแผ่นดินไหวฮันชิน เมื่อปี 2538 ที่ประเทศญี่ปุ่น ผลทางสถิติของความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการรอดชีวิตและระยะเวลาในการช่วยเหลือมีดังนี้

80.5% ใน 1 วัน

28.5% ใน 2 วัน

21.85% ใน 3 วัน

5.9% ใน 4 วัน

และ 5.8% ใน 5 วัน จะเห็นได้ว่าการกู้ภัยภายใน 72 ชั่วโมงจะมีประสิทธิผลสูงสุด ส่วนปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการรอดชีวิตของการกู้ภัยในภายหลัง ได้แก่ สภาพของผู้คนที่ติดอยู่ ความยากลำบากในการกู้ภัย สภาพอากาศ เป็นต้น

เมื่อเวลา 14:20 น. ของวันที่ 28 มีนาคม แผ่นดินไหวขนาด 7.9 เกิดขึ้นที่บริเวณตอนกลางของประเทศเมียนมาร์ โดยมีความลึกจุดศูนย์กลาง 30 กิโลเมตร เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงส่งมาถึงประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และอื่นๆ

ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 31 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น เกิดอาฟเตอร์ช็อกรวม 36 ครั้งในประเทศเมียนมาร์ ความรุนแรงอยู่ที่ 2.8 ถึง 7.5 ผู้รอดชีวิตมักหนีออกจากบ้านด้วยความหวาดกลัว

เมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดได้แก่ เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสอง โดยมีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน จากข้อมูลเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ในพื้นที่ ระบุว่าอุณหภูมิในเมืองมัณฑะเลย์พุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเหนื่อยล้าและส่งผลให้ร่างผู้เสียชีวิตเน่าเปื่อยเร็วขึ้น

ส่งผลให้การช่วยเหลือทำได้ยากยิ่งขึ้น ตอนนี้ทีมกู้ภัยจีนหลายทีมได้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 6 คนในเมียนมาร์ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งด้วย

เมื่อค่ำวันที่ 30 มีนาคม ณ อพาร์ทเมนท์ “สกายวิลล่า” ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนจับตามองเป็นอย่างมาก ที่น่าเสียใจ คือ พบหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งซึ่งจมอยู่ใต้ซากปรักหักพังมานานกว่า 55 ชั่วโมง เธอได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยการตัดแขนขาออก แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตจากการเสียเลือดมากเกินไป

ณ บริเวณโรงแรมวินสตาร์ กู้ภัยใช้ที่นี่เป็นศูนย์บัญชาการ ซึ่งก็เป็นศุนย์รวมของนักธุรกิจจำนวนมาก แต่การทำงานกู้ภัยก็ใกล้จะสิ้นสุดลงเช่นกัน เนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานเช่น การสื่อสาร ถนน และโรงพยาบาล ถูกทำลาย ทำให้ทรัพยากรทางการแพทย์มีจำกัด และสภาพสุขาภิบาลที่นั่นก็ย่ำแย่มาก

จะเห็นได้ว่า ในการเกิดภัยพิบัติทุกครั้ง ล้วนเป็นการล้างบาปที่ทำให้มนุษย์หันมาใส่ใจถึงความสำคัญของการป้องกัน บรรเทา และบรรเทาภัยพิบัติ ในอนาคต เราควรเร่งดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับปัญหาการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินทางสังคม และจัดตั้งกลไกการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินทางสังคมที่เป็นรูปธรรม

ตอนนี้...แผ่นดินไหวก่อให้เกิด "วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น" ไม่ว่าจะจากหลังจากสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 2564

แต่ความขัดแย้งด้วยอาวุธยังคงดำเนินต่อไปทั่วเมียนมาร์จนถึงทุกวันนี้ ส่งผลให้ผู้คนประมาณ 3.5 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลายคนล้มตาย หลายคนออกนอกประเทศ หลายคนเสี่ยงต่อการอดอาหาร และหลายคนต้องขายอวัยวะ

เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นและฤดูมรสุมใกล้เข้ามา ความเสี่ยงของ "วิกฤตรอง" ก็กำลังเกิดขึ้น และความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเพียงแค่สองวันหลังจากเกิดแผ่นดินไหว กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ของเมียนมาร์ยังคงยิงปะทะกับกองทหารต่อไป

องค์การอนามัยโลกเตือนว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว ประชาชนในเมียนมาร์ 19.9 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดย 12.9 ล้านคนต้องการบริการทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน สถานพยาบาลหลายแห่งรวมทั้งเมืองสะกายและเมืองมาเกวก็ถูกปิดตัวลงแล้ว

จังหวัดมัณฑะเลย์และสะกายก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวเช่นกัน

ขณะนี้ WHO ได้ประกาศว่าแผ่นดินไหวในเมียนมาร์ได้รับการยกระดับเป็น “ภาวะฉุกเฉินระดับ 3” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่หน่วยงานกำหนดไว้

องค์กรยังพยายามระดมทุนอย่างเร่งด่วนจำนวน 8 ล้านดอลลาร์เพื่อรักษาผู้บาดเจ็บและป้องกันการเกิดโรคภายใน 30 วัน สหพันธ์สภากาชาดและสภากาชาดเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ยังได้ออกคำร้องเร่งด่วนเพื่อขอระดมเงิน 100 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมาร์จำนวน 100,000 คนภายใน 24 เดือน

แมทธิว ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ IFRC ชี้ให้เห็นว่าเมียนมาร์ประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและการอพยพเนื่องจากสงครามอยู่แล้ว และแผ่นดินไหวก็ทำให้ปัญหาเหล่านี้ยิ่งรุนแรงขึ้น

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: momon, ชตระกูล ศรีสวัสดิ์, sakura1569
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
3 โรงแรมชื่อดังในประเทศไทย ที่ถูกยกให้เป็นโรงแรมที่หรูหรามากที่สุด"มาย-อาโป" ชวนแฟน ๆ เตรียมทิซชู ดูซีรีส์ "Shine" ตอนจบกระแส “แบน ปตท.” ในกัมพูชา กลับกลายเป็นกระแสไวรัล – คนแห่ใช้บริการแน่นกว่าเดิม จนชาวเสียมเองยังงง!บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ยอมรับมีความสุขที่แต่งหญิงต้อม ยุทธเลิศ เรียก 100 ล้าน! ลุยกระทรวงวัฒนธรรม ขอเอกสาร Be On Cloud ปมละเมิดลิขสิทธิ์ทึ่งทั่วไทย : "สะพานชลมารควิถี" หรือสะพานเลียบชายทะเลชลบุรีค้นหา 100 ครั้ง พบตัวเอง 1 ครั้งอาหารหมักดองที่เหม็นที่สุดในโลก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
3 โรงแรมชื่อดังในประเทศไทย ที่ถูกยกให้เป็นโรงแรมที่หรูหรามากที่สุดเลขเด็ด "อ.น๊อตตี้" งวดวันที่ 1 ตุลาคม 68..มาอย่างไว! รีบส่องได้เลยกระแส “แบน ปตท.” ในกัมพูชา กลับกลายเป็นกระแสไวรัล – คนแห่ใช้บริการแน่นกว่าเดิม จนชาวเสียมเองยังงง!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
นี่คือจุด “แย่ ๆ” ทางการเมืองของกัมพูชา — ประเด็นที่ได้รับการวิจารณ์ค่อนข้างมาก ทั้งจากภายนอกและภาคประชาสังคม:นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะกินทุเรียน 5.5 โล หลังนำขึ้นเครื่องบินไม่ได้รมว.กลาโหมจีนขู่ว่าจะยึดไต้หวันอีกครั้ง!!หญิงสูงอายุถูกเพื่อนร่วมห้องฆ่าตายคาบ้านพักคนชรา
ตั้งกระทู้ใหม่