ศาลกลางสหรัฐฯ ยอมให้ "DOGE" ดำเนินการยุบ USAID ต่อ แม้เจ้าหน้าที่ฟ้องร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลกลางสหรัฐฯ ยอมให้ "DOGE" ดำเนินการยุบ USAID ต่อ แม้เจ้าหน้าที่ฟ้องร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลกลางสหรัฐฯ ยอมให้ "DOGE" ดำเนินการยุบ USAID ต่อ แม้เจ้าหน้าที่ฟ้องร้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลอุทธรณ์แห่งสหรัฐฯ สั่งระงับคำสั่งห้ามการดำเนินงานของ "DOGE" (Department of Government Efficiency) ที่ USAID (United States Agency for International Development) ทำให้แผนการยุบหน่วยงานช่วยเหลือต่างประเทศของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินต่อไปได้ แม้เจ้าหน้าที่ USAID 26 คนยื่นฟ้องว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ศาลอุทธรณ์เขต 4 สหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มีนาคม 2025) มีคำสั่งให้ระงับคำตัดสินของศาลแขวงแมริแลนด์ ที่สั่งให้ USAID กลับสู่สถานะเดิมก่อน DOGE เข้าแทรกแซง โดยศาลอุทธรณ์ระบุว่า DOGE และทีมงานของอีลอน มัสก์ แสดงหลักฐานที่แข็งแกร่งว่าอาจชนะคดีนี้ได้ และการระงับคำสั่งเดิม "เป็นผลดีต่อสาธารณะ"
พื้นหลังคดี:
เจ้าหน้าที่ USAID และผู้รับเหมาอดีต 26 คน ยื่นฟ้องรัฐบาลกลางเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยอ้างว่า DOGE ดำเนินการโดยไม่ผ่านการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่ทีมงานของทรัมป์ใช้ DOGE เป็นเครื่องมือในการยุบ USAID โดยการ:
- ยกเลิกสัญญาราชการ
- สั่งพักงานเจ้าหน้าที่
- ลดจำนวนพนักงาน
- ปิดสำนักงานใหญ่
- ถอดเว็บไซต์ USAID ออฟไลน์
บทบาทของอีลอน มัสก์:
ศาลอุทธรณ์ระบุว่า มัสก์ ดำรงตำแหน่ง "ที่ปรึกษาอาวุโส" ของทรัมป์ ไม่ใช่ "ผู้บริหาร DOGE" จริง ซึ่งลดความเสี่ยงทางกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งตั้งผิดรัฐธรรมนูญ แม้เขาจะเป็นผู้สั่งการ DOGE ในการปฏิรูป USAID
ผลกระทบต่อ USAID:
USAID ที่ก่อตั้งในปี 1961 ถูกสั่งปิดโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แล้ว โดยโอนงานส่วนใหญ่ไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ส่วนเจเรมี เลวิน อดีตทีมงาน DOGE ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้บริหารฝ่ายนโยบายของ USAID ส่วนเคนเน็ธ แจ็คสัน อดีตผู้อำนวยการสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ ได้เป็นผู้บริหารด้านการเงิน
ปฏิกิริยาจากวงการช่วยเหลือ:
องค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่งต่างตื่นตระหนก เนื่องจาก USAID เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยมีงบประมาณปี 2024 อยู่ที่ 27,000 ล้านดอลลาร์ การยุบ USAID ทำให้โครงการช่วยเหลืออาหาร การศึกษา และสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนาต้องหยุดชะงัก
"การยุบ USAID ส่งผลร้ายแรงต่อประชากรกลุ่มเปราะบางทั่วโลก" — เอมิลี วิลสัน ผู้อำนวยการองค์กรช่วยเหลืออาหารโลก กล่าว "เราหวังว่าศาลสูงสุดจะพิจารณาผลกระทบจริงของนโยบายนี้"
บทวิเคราะห์:
ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญชี้ว่า ศาลอุทธรณ์ใช้หลัก "ความเป็นไปได้ในการชนะคดี" (Likelihood of Success) เป็นเกณฑ์หลักในการตัดสิน แทนที่จะวิเคราะห์รายละเอียดการละเมิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเปิดช่องให้ฝ่ายบริหารใช้กลไกที่ไม่ผ่านการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญได้ในอนาคต
หมายเหตุ: ข้อมูลอ้างอิงจากรายงานของ Fox News, Politico และเอกสารศาลสหรัฐฯ (ข้อมูลถึงเดือนธันวาคม 2023)
















