43 คนติดอยู่ใต้ซาก หลังตึกสูงในกรุงเทพถล่ม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว

     เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เกิดขึ้นในวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] ส่งผลทำให้โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง ในเมืองหลวงของเมียนมา กลายเป็นพื้นที่ประสบภัยภิบัติครั้งใหญ่ ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และ อีกหลายสิบรายติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย...

     โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยา ของอเมริกา รายงานว่า "เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเมืองสะกาย ในช่วงบ่ายวันศุกร์ [ตามเวลาท้องถิ่น] ที่ระดับความลึกตื้น [ผิวดิน] และ เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.4 แมกนิจูดตามมา หลังจากนั้นไม่กี่นาที..."

     เหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในเมียนมา ซึ่งอาคารต่างๆ ถล่มลงมาตามข้างทาง ถนนแตกร้าว และ สะพานเอวาซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ก็ถล่มลงมาด้วย เนื่องจากอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

     ในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา พบว่าทางเข้าแผนกฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลหลักของเมืองมีรถยต์ปิดอยู่ และ ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่โรงพยาบาล นับพันเตียง ถูกเข็นออกมาตั้งนอกโรงพยาบบาล โดยมีสายน้ำเกลือห้อยอยู่บนเตียงคนไข้ บางคนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่คนอื่นๆนอนนิ่งอยู่ โดยมีญาติๆพยายามปลอบโยนพวกเขา

     เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กล่าวว่า "มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน เดินทางมาถึงโรงพยาบาลแล้ว"

     แพทย์คนหนึ่ง กล่าวว่า "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย" และ "เรากำลังพยายามจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งผมรู้สึกเหนื่อยมากเลย"

     ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเมือง ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ร่วงลงมาจากเพดาน ในขณะที่อาคารเริ่มสั่น เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบวิ่งออกไปด้านนอก บางคนตัวสั่นและน้ำตาซึม ในขณะที่บางคนคว้าโทรศัพท์มือถือ เพื่อพยายามติดต่อกับคนที่พวกเขารัก

ตึกระฟ้าถล่ม
     บริเวณชายแดนประเทศไทย ซึ่งแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แรงสั่นสะเทือนรุนแรงทำให้ประชาชนในหลายเมือง หลั่งไหลออกมายืนบนท้องถนน ด้วยความตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ กล่าวว่า "อาคารสูง 30 ชั้น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในกรุงเทพ ได้เกิดถล่มลงมา จนทำให้คนงาน 43 คน ติดอยู่ในอาคารดังกล่าว"

     ภาพวิดีโอที่แชร์กันบนโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นว่าอาคารขนาดใหญ่ ที่กำลังสร้างอยู่ ซึ่งเป็นสำนักงานของรัฐบาล ได้พังทลายลงมาจนเหลือเพียงเศษหินและเศษโลหะที่บิดเบี้ยว ภายในไม่กี่วินาที...

     รองผู้บัญชาการตำรวจ "วรพัฒน์ สุขไทย" เขตบางซื่อ กล่าวว่า "เมื่อผมไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ผมได้ยินคนตะโกนขอความช่วยเหลือ ช่วยผมด้วย..." และ "เราคาดว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน  แต่ตอนนี้เรายังไม่สามารถ ระบุจำนวนผู้บาดเจ็บได้"

     เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือ ไฟฟ้าดับไปชั่วครู่ ชาวบ้านต่างพากันวิ่งออกมาด้านนอกด้วยความแตกตื่น เนื่องจากพวกเขาไม่แน่ใจว่าจะตอบสนอง ต่อแผ่นดินไหวที่ผิดปกตินี้อย่างไร...

     "สาย" วัย 76 ปี กำลังทำงานอยู่ในร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง ในเมืองทางตอนเหนือ เมื่อร้านเริ่มเกิดแผ่นดินไหว กล่าวว่า "ฉันรีบวิ่งออกจากร้านพร้อมกับลูกค้าคนอื่นๆ" และ "นี่เป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุด ที่ฉันเคยเจอมาในชีวิตเลย"

อาคารได้รับความเสียหาย
     เหตุแผ่นดินไหวครั้งในนี้ทำให้ นายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ผู้นำของไทย ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพ โดยระงับบริการรถไฟฟ้าใต้ดิน และ รถไฟฟ้ารางเบาบางสายหนึ่ง ส่งผลทำให้การจราจรที่คับคั่งอยู่แล้ว ในตัวเมืองยิ่งแย่ลงไปอีก...

     เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ สามารถรู้สึกได้ทั่วทั้งภูมิภาค โดยจีน กัมพูชา บังกลาเทศ และ อินเดีย ต่างรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหว โดยการถ่ายทอดสดโดยสำนักข่าวปักกิ่ง ซึ่งเชื่อมโยงกับรัฐบาลเผยให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินประมาณ 12 คนสวมชุดสีส้มและหมวกกันน็อก ยืนอยู่ด้านหลังแนวป้องกันบนถนน ที่เต็มไปด้วยอิฐที่พังถล่มลงมาในเมืองรุ่ยลี่ ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนจีนกับเมียนมา

     นายกรัฐมนตรี "นเรนทรา โมดี" ผู้นำของอินเดีย ได้ออกมากล่าวว่า "ประเทศของเรา พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้ แก่เมียนมาและไทย" และ "ผมได้สั่งให้ทางการเตรียมพร้อมสำหรับการร้องขอแล้ว"

     เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในเมียนมา โดยระหว่างปี 1930 ถึง 1956 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6 ครั้ง โดยวัดได้ขนาด 7.0 ขึ้นไป ใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งทอดตัวจากเหนือจรดใต้ ผ่านใจกลางประเทศ

     เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.8 แมกนิจูด ที่เมืองพุกาม เมืองหลวงเก่าในเมียนมาตอนกลาง คร่าชีวิตผู้คนไป 3 รายในปี 2016 นอกจากนี้ ยอดแหลมของอาคารและกำแพงวัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยังพังทลายลงมาด้วย...