ขแมร์เล่นใหญ่ ลั่น คนไทยกล้าดียังไง มาก็อปปี้เขมร?!!
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อขแมร์เริ่มใส่ชุดไทยไปในที่ต่างๆจุดประกายให้เกิดการถกเถียงระหว่างชาวเน็ตไทยและกัมพูชา เกี่ยวกับสิทธิในวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์
จากแรงบันดาลใจสู่ข้อครหา
ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการหยิบยกเรื่องการ "ก๊อบปี้" เครื่องแต่งกายไทยขึ้นมาพูดถึง ก่อนหน้านี้ เราเคยเห็นกรณีชุดราตรีแนวไทยที่ถูกนำไปออกแบบใหม่ หรือการอ้างสิทธิ์ในศิลปะแบบไทย เช่น โขน หรือรำไทย มาแล้ว แต่กรณีชุดไทยครั้งนี้กลับสร้างกระแสแรง เพราะรูปแบบและลวดลายที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก
หลายคนตั้งคำถามว่า นี่คือการได้รับแรงบันดาลใจหรือเป็นการคัดลอกโดยไม่มีเครดิตให้ต้นฉบับ? ขณะที่บางส่วนมองว่าแฟชั่นไม่มีพรมแดน และการได้รับอิทธิพลซึ่งกันและกันเป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมเสื้อผ้า
"หากนำไปใช้ในเชิงแฟชั่นโดยเคารพต้นฉบับ และให้เครดิตว่าได้รับอิทธิพลจากไทย ก็คงไม่มีปัญหา แต่หากนำไปผลิตและขายโดยอ้างว่าเป็นของตัวเอง นี่คือการละเมิดทางวัฒนธรรม" นักออกแบบชุดไทยชื่อดังกล่าว
ทางฝั่งกัมพูชา มีชาวเน็ตบางส่วนออกมาปกป้องโดยระบุว่า ไทยและกัมพูชามีประวัติศาสตร์ร่วมกันมานาน จึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศจะมีความคล้ายคลึงกัน นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากกลุ่มผู้ผลิตเสื้อผ้าระบุว่า พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะลอกเลียนแบบ แต่เป็นการสร้างสรรค์จากมุมมองของแฟชั่น
ในโลกของแฟชั่น การได้รับแรงบันดาลใจจากกันเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือการให้เครดิตและเคารพต้นฉบับ การปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมไทยอาจต้องใช้ทั้งมาตรการทางกฎหมายและการส่งเสริมเอกลักษณ์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้อาจไม่ใช่แค่ประเด็นของการก๊อบปี้ชุดไทยเท่านั้น แต่สะท้อนถึงการแข่งขันทางวัฒนธรรมที่ต้องหาจุดสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการเปิดกว้างให้โลกแฟชั่นได้พัฒนาไปพร้อมกัน
อ้างอิงจาก: ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง


















