ขนลุก! บอส ฐิติ เปิดเบื้องหลังดิว อริสราจำนำทรัพย์ 62 ล้าน

กรณีของ "ดิว อริสรา" นักแสดงสาวที่กำลังตกเป็นข่าวใหญ่ในวงการบันเทิง ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก หลังจากที่มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับปัญหาการเงินของเธอ โดยเฉพาะกรณีที่เธอยืมเงินจากนักธุรกิจสาว "มาดามเมนี่" หรือ เมย์ วาสนา อินทะแสง ซึ่งเป็นนักธุรกิจพันล้าน โดยมียอดหนี้ถึง 62 ล้านบาท ที่ยังไม่สามารถคืนได้ตามกำหนด ทำให้เกิดปัญหาขึ้นภายในวงการ ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องและการเปิดเผยเรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับทรัพย์สินและการทำธุรกิจที่ล้มเหลวของดิว อริสรา

หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในข่าวนี้คือการที่ดิว อริสราได้เช่าคอนโดหรูในกรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท โดยที่ถูกเปิดเผยว่าคอนโดดังกล่าวไม่ได้ถูกซื้อ แต่ดิว อริสราและสามีได้เซ็นสัญญาเช่าห้องจากเจ้าของที่เป็นชาวจีนในราคาเดือนละ 8 แสนบาท ซึ่งถ้าคำนวณแล้วจะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าคอนโดทั้งสองห้องรวมเกือบ 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดิว อริสรา ว่าทำไมถึงสามารถจ่ายเงินในจำนวนนี้ได้ ทั้งที่เธอกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินและหนี้สินที่ยังไม่สามารถชำระได้

นอกจากเรื่องของคอนโดแล้ว ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับรถหรูที่ดิว อริสราเคยโพสต์ในโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่ารถดังกล่าวเป็นเซอร์ไพรส์จากสามี แต่หลังจากการนำรถมาให้ทดลองขับ ดิว อริสราก็ไม่ได้ซื้อรถคันนั้นตามที่โพสต์ลงในโซเชียล โดยระบุว่าไม่ชอบเสียงของรถ คำกล่าวนี้สร้างความตกใจให้กับเจ้าของรถที่ส่งรถมาให้ทดลองขับ เพราะหลังจากถ่ายคลิปเสร็จ ดิว อริสราก็บอกปฏิเสธไม่ซื้อ

กรณีการยืมเงิน 62 ล้านจาก "มาดามเมนี่" ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อมีหลักฐานใหม่ที่เปิดเผยเกี่ยวกับการจำนำทรัพย์สินของเมย์ วาสนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการทางการเงินของดิว อริสรา ที่ผิดพลาด จนกลายเป็นปัญหาลุกลามและได้รับความสนใจจากทั้งสื่อและประชาชน

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกลางในเหตุการณ์นี้ก็คือ "บอส" รุ่นน้องของดิว อริสรา ซึ่งเป็นคนกลางที่รับทรัพย์สินไปจำนำในครั้งแรก และมีการพูดถึงในข่าวว่าเขามีบทบาทในการช่วยเหลือดิว อริสรา แต่ก็ไม่ได้รู้จักกับเธอโดยตรง บอสอธิบายว่าเขาไม่เคยเห็นทรัพย์สินที่ถูกจำนำจริงๆ แต่ทราบเพียงว่าเขาถูกบอกว่าเป็นของเดือน จากการพูดคุยกับ "แมน" เพื่อนสนิทของดิว อริสรา ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศกับดิว อริสรา แต่สุดท้ายธุรกิจนี้ก็ล้มเหลวจนทำให้เกิดความเสียหายทางการเงิน

อีกหนึ่งประเด็นที่มีการพูดถึงคือการที่ดิว อริสราเคยมีส่วนร่วมในการกระทำบางอย่างที่ไม่โปร่งใส และมีความเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจที่ไม่สมบูรณ์แบบ รวมถึงเรื่องของการเชื่อมโยงกับกลุ่มนักธุรกิจและทุนจีนสีเทา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของความเสียหายในครั้งนี้ก็คือ "เกด" ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ โดยเกดได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอไม่ใช่เพื่อนสนิทของดิว อริสรา และไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการยืมเงินหรือการทำธุรกิจที่ล้มเหลว แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย โดยเกดได้อธิบายว่าตนเองเป็นเพียงแค่คนที่ช่วยเหลือในธุรกิจบางอย่างเท่านั้น แต่กลับต้องถูกกดดันและถูกข่มขู่จากกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้

นอกจากนี้ เกดยังเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ย่านสาธร โดยระบุว่าเธอถูกกักขังในห้องพร้อมกับอีกหลายคน และต้องพบกับการข่มขู่และความเครียดจากเหตุการณ์ดังกล่าว เกดยอมรับว่าเธอมีอาการซึมเศร้าหลังจากเหตุการณ์นั้น และต้องทานยารักษาอาการจิตเวชต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือน

จากทั้งหมดนี้ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับดิว อริสราและการยืมเงิน 62 ล้านจากนักธุรกิจสาวมาดามเมนี่ รวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามองและให้ความสนใจ เนื่องจากมีหลายด้านที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของธุรกิจที่ล้มเหลว

การใช้ชีวิตของดิว อริสราที่ดูไม่เหมาะสมกับสถานะทางการเงิน และการเชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจสีเทาที่อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมในวงการบันเทิง.