จากเหยื่อสู่ผู้ให้!แบงค์ วงแคลช ให้อภัยและช่วยเหลือคนที่เคยคุกคาม

แบงค์ CLASH เตือนหนุ่มวัย 34 คุกคามครอบครัว ก่อนตัดสินใจยื่นมือช่วยเหลือ

แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ แบงค์ CLASH นักร้องชื่อดังของเมืองไทย ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เตือนชายวัย 34 ปี ที่คุกคามตนเองและครอบครัวมาเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน โดยระบุรายละเอียดชัดเจนถึงการกระทำของชายคนดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ทั้งเขาและครอบครัวเกิดความไม่สบายใจ และมีความกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

4 เดือนแห่งความระแวง – ครอบครัวอยู่ในสภาวะหวาดกลัว

ในโพสต์แรกที่แบงค์ CLASH ได้เผยแพร่ เขากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ชายคนนี้ชื่อ จิ๊บ อายุ 34 ปี มีภูมิลำเนากำเนิดที่เชียงใหม่ และเติบโตที่ลำพูน ชายคนนี้ได้ ส่งจดหมายและกล่องข้อความมาที่บ้านของแบงค์อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานถึง 4 เดือนเต็ม เนื้อหาภายในจดหมายและข้อความเหล่านั้น เป็นการกล่าวอ้างถึงตัวตนของเขาในลักษณะที่ไม่ปกติ เช่น อ้างว่าตนเองเป็นลูกของบุคคลสำคัญในวัง และเป็นเจ้าของบริษัทโซนี่ทั่วโลก รวมถึงยังกล่าวอ้างว่ามีเครื่องบินเจ็ตจอดอยู่ที่สนามบินดอนเมือง

การกระทำเช่นนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพจิตใจของแบงค์และครอบครัว โดยเขาระบุว่า พ่อของเขานอนไม่หลับ เช่นเดียวกับตัวเขาเองที่ต้องเผชิญกับความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครอบครัวตกอยู่ในสภาวะของความไม่มั่นคงทางจิตใจและความปลอดภัย ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าชายคนดังกล่าวจะบุกเข้ามาภายในบ้านเมื่อใด

"ผมได้อดทนในเชิงรับมา 4 เดือน แต่ตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็นเชิงรุกเพื่อปกป้องครอบครัวของผมเอง" แบงค์กล่าวในโพสต์ของเขา

แจ้งความต่อ สน.พระโขนง หวั่นเกิดเหตุร้ายแรง

หลังจากที่ทนกับสถานการณ์ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน ในที่สุด แบงค์ CLASH ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับ สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า หากต้องป้องกันตัวเองและครอบครัว เขาสามารถทำได้ แต่เลือกที่จะไม่ใช้ความรุนแรง เพราะถือว่าไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม

"จริงๆ ผมสามารถป้องปรามและขับไล่ได้ครับ แต่การใช้ความรุนแรงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ และมันผิดกฎหมาย ความรุนแรงมันไม่คุ้มกันครับ" แบงค์กล่าว

การตัดสินใจแจ้งความในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องครอบครัวของเขาเอง แต่ยังเป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

จากการคุกคาม สู่การช่วยเหลือ – แบงค์ยื่นมือช่วยพาชายคนดังกล่าวเข้ารับการรักษา

หลังจากที่โพสต์ของแบงค์ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชายคนดังกล่าว โดยมีบางคนระบุว่า ชายวัย 34 ปีที่ก่อเหตุ อาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิต

เมื่อได้รับข้อมูลดังกล่าว แบงค์ CLASH ตัดสินใจเปลี่ยนจากการดำเนินคดีเพียงอย่างเดียว มาเป็นการยื่นมือช่วยเหลือ เพื่อให้ชายคนนี้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยในโพสต์ล่าสุดของเขา แบงค์ได้แจ้งว่า กำลังประสานงานกับครอบครัวของชายคนดังกล่าว เพื่อพาเข้ารับการรักษาทางจิตเวช

"จากการคุกคาม ผมขอเข้าไปช่วยเหลือเลยละกันนะครับ" แบงค์กล่าวในโพสต์ของเขา พร้อมกับยืนยันว่า จะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยตัวเอง

"ในโพสต์ก่อนหน้านี้ มีคนแจ้งเบาะแสมาว่าน้องมีอาการทางจิต ผมกำลังประสานไปทางครอบครัวของน้อง เพื่อจะพาน้องไปรักษาตามระบบ ค่าใช้จ่ายผมจะช่วยดูแลเองครับ"

ชาวเน็ตชื่นชม แบงค์ CLASH ไม่ใช้ความรุนแรง แต่เลือกช่วยเหลือแทน

หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนที่ติดตามข่าวสารต่างแสดงความเห็นในเชิงบวก และชื่นชม ความมีเมตตาของแบงค์ ที่เลือกจะช่วยเหลือชายที่คุกคามตนเองและครอบครัว แทนที่จะใช้วิธีการรุนแรงหรือดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

"พี่แบงค์เป็นคนใจดีมาก นอกจากไม่โกรธแล้วยังช่วยน้องเขาอีก"

"สุดยอดมากค่ะ พี่แบงค์เลือกช่วยเหลือคนที่มีปัญหา แทนที่จะเลือกตอบโต้ด้วยความโกรธ"

"ขอให้ชายคนนี้ได้รับการรักษาไวๆ นะคะ และขอให้พี่แบงค์และครอบครัวปลอดภัยค่ะ"

บทสรุปของเหตุการณ์ – เมื่อความเมตตาชนะเหนือความโกรธ

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าแบงค์ CLASH และครอบครัวจะได้รับผลกระทบจากการคุกคามเป็นเวลานาน แต่เขาเลือกที่จะรับมือกับปัญหาอย่างมีสติ และแสดงออกถึง ความมีน้ำใจและเมตตาต่อผู้ที่อาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิต

แทนที่จะตอบโต้ด้วยความรุนแรงหรือใช้มาตรการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว แบงค์เลือกที่จะช่วยเหลือ และเปิดโอกาสให้ชายคนดังกล่าวได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องการมากขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับผู้ที่พบเจอปัญหาเกี่ยวกับ บุคคลที่มีอาการทางจิต หรือ พฤติกรรมคุกคาม สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือได้ และหากเป็นไปได้ การให้โอกาสในการรักษาและฟื้นฟู อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าในระยะยาว

สุดท้ายนี้ ขอให้ชายวัย 34 ปีที่มีปัญหาได้รับการรักษาและฟื้นฟูกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ และขอให้แบงค์ CLASH และครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง