แฉเบื้องลึก! คิมแซรนพยายามติดต่อคนดังในค่าย แต่ไร้คนเหลียวแล
ประเด็นร้อนระหว่าง คิมซูฮยอน และ คิมแซรน ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน เกาหลี, ไทย, และ จีน โดยมีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะใน เว่ยป๋อ ที่แฮชแท็กเกี่ยวกับเรื่องนี้พุ่งขึ้นติดอันดับต้นๆ และถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่กี่วัน มุมมองที่เกิดขึ้นจากการติดตามเรื่องราวนี้ในโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการขุดคุ้ยข้อมูลใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในข้อมูลที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือเรื่อง หนี้ 700 ล้านวอน (ประมาณ 16 ล้านบาท) ที่มีการคาดการณ์ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจ จบชีวิตของคิมแซรน ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยจาก ป้าของคิมแซรน ในการสัมภาษณ์ผ่านช่อง Garosero Research Institute (가로세로연구소) ที่ได้พูดถึงเหตุการณ์นี้และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การขุดคุ้ยหนี้ 700 ล้านวอนและบทสัมภาษณ์จาก Garosero Research Institute
ก่อนหน้านี้ในรายงานจาก Dispatch ได้เปิดเผยว่า ต้นสังกัดของคิมซูฮยอน คือ Gold Medalist ได้ส่งใบแจ้งหนี้เพื่อเรียกเก็บเงินจำนวน 700 ล้านวอนจากคิมแซรน แต่ในภายหลัง ญาติของคิมแซรน ได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างออกไป ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในช่อง Garosero Research Institute โดยระบุว่า เอกสารแจ้งหนี้ ระบุชัดเจนว่า หากไม่ชำระหนี้ภายในหนึ่งปี จะมีการดำเนินคดีทั้งทาง แพ่ง และ อาญา ไม่ใช่แค่การส่งเอกสารตามพิธีการตามปกติที่ต้องทำ
การขาดการตอบรับจากค่ายและความกดดันที่คิมแซรนต้องเผชิญ
จากข้อมูลของ ญาติคิมแซรน ได้เปิดเผยว่า คิมแซรน ได้พยายามติดต่อทุกคนในค่าย Gold Medalist เพื่อขอความช่วยเหลือในการเจรจาเกี่ยวกับหนี้ 700 ล้านวอน แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับหรือแม้แต่การรับสายจากใครเลย ทั้งๆ ที่เธอได้โทรหาทีละคนและพยายามติดต่อทุกคนในค่าย นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามว่า คิมซูฮยอน จะโกหกไปถึงเมื่อไหร่และจะปฏิเสธเรื่องนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
ความเป็นมาของหนี้ 700 ล้านวอนและเหตุผลที่คิมแซรนถูกเรียกเก็บเงินจำนวนนี้
หนี้จำนวน 700 ล้านวอน ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคดีเมาแล้วขับ แต่เป็นหนี้ที่เกิดจากการ ชดเชยความเสียหายทางธุรกิจ ที่เกิดจากการที่ คิมแซรน ถูก พักงาน และ ถูกแบนจากวงการบันเทิง เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี ส่งผลกระทบต่อรายได้ของค่าย Gold Medalist จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่ายต้องเรียกเก็บเงินจำนวนนี้เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
การเจรจาและสถานะของคิมแซรนในช่วงเวลานั้น
ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์นี้ คิมแซรน กำลังเริ่มกลับมามีงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง โดยเธอหวังว่าจะสามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต แต่เมื่อได้รับ จดหมายแจ้งหนี้ จำนวน 700 ล้านวอน โดยไม่มีการเจรจาหรือความเข้าใจใดๆ เธอจึงตกอยู่ในสภาวะ ซึมเศร้า และ เครียดอย่างหนัก ซึ่งได้ยืนยันจาก ญาติของคิมแซรน ว่าเธอร้องขอให้ค่าย Gold Medalist ไม่ฟ้องร้องและขอผ่อนชำระหนี้ตามกำลังที่มี แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ
สาเหตุของการตัดสินใจที่เกิดขึ้น
ญาติของคิมแซรน เปิดเผยว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้คือ ฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้เธอไม่สามารถรับภาระได้อีกต่อไป คิมแซรนรู้สึกว่าไม่มีใครคอยช่วยเหลือหรือให้คำตอบจากค่าย และเธอถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยว
การรับมือกับการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตจีนและความกดดันจากสาธารณะ
หลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ในสื่อจีนและเกาหลี ชาวเน็ตใน เว่ยป๋อ ได้มีการถกเถียงกันอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ คิมแซรน ถึงขั้นตัดสินใจทำเช่นนั้น บางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ค่าย Gold Medalist ที่ไม่ให้ความช่วยเหลือหรือคำแนะนำในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และยังมีหลายคนที่เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้บริหารค่ายในเรื่องนี้
บทสรุปและข้อคิดจากเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ คิมแซรน ไม่เพียงแค่เป็นการสะท้อนถึงความยากลำบากในวงการบันเทิง แต่ยังเป็นการเตือนให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของ การสนับสนุน และ การดูแลจิตใจ ของบุคลากรในวงการต่างๆ ที่อาจถูกทิ้งไว้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยเฉพาะเมื่อพวกเขากำลังเผชิญกับ ปัญหาทางการเงิน และ ปัญหาทางจิตใจ ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง
คิมซูฮยอน และ Gold Medalist ยังคงต้องเผชิญกับคำถามและการตรวจสอบจากสาธารณะ ซึ่งการแสดงออกและการตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้จะมีผลอย่างมากต่อ ภาพลักษณ์ ของพวกเขาในวงการบันเทิง และสามารถส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับแฟนๆ และผู้ติดตามในอนาคต

















