AOTหุ้นร่วงหลังจากนายกีรติ กิจมานะวัฒน์...ออกมาแถลงผลประกอบการ
เคราะห์ซำกรรมซัด AOT หุ้นร่วงหลังจาก นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ออกมาแถลงผลประกอบการ
เรียกได้ว่าเป็นข่าวเด่นประเด็นร้อนให้กับวงการคอหุ้นไทย เพราะหุ้นตัวTop ของไทยที่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยร่วงหนักขนาดนี้มาก่อน เว้นก็แต่ช่วงกฤตโควิดที่ผ่านมา ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี เหล่านักลงทุน แมงเม่าตัวเล็กตัวน้อยได้แต่ขาดทุนกันไปแถบๆ ล่าสุด หุ้น AOT ก็ดิ่งไม่น้อยหน้า ระดับสูงสุดที่ระดับ 47.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 41.50 บาท แล้วมันเกิดจากอะไรหล่ะ!
เป็นที่น่าตกใจเพราะการที่ หุ้นAOTดิ่งขนาดนี้ ก็เกิดจากการออกมาแถลงผลประกอบการของการท่าอากาศยานไทย โดยผู้อำนวยการใหญ่ของเรานั่นเอง สรุปง่ายๆ แบบไม่ต้องมานั่งอ่านตัวเลขก็คือ กำไร คิดเป็น 17.12% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่านักลงทุนคาดการ์ณไว้ เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศเราได้กระตุ้นการท่องเที่ยวเปิดฟรีวีซ่า และ ยืดอายุวีซ่าให้กับชาวยุโรปให้เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา แต่ฉไน ยอดกำไรถึงไม่เข้าเป้า
แต่จากการแถลง เหมือนกับเป็นการโยนความผิดครั้งยิ่งใหญ่ เอาความผิดให้พ้นคอตัวเอง โดยผู้ร้ายในงานนี้กลับมาลงที่ดิวตี้ฟรี ที่มีการยืดชำระหนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา แต่เรื่องนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เลยทำให้นักลงทุนแตกตื่นกันไปเป็นแถว
“ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ได้กระทบรายได้ของเรา เรายังบันทึกรายได้จากคิง เพาเวอร์ทุกเดือนตามปกติ ที่ระบุในสัญญาก่อนจะย้ายเข้ารายการบัญชีลูกหนี้ ส่วนคิง เพาเวอร์ที่ยังไม่สามารถจ่าย Minimum Guarantee ได้ตามสัญญาจะต้องเสียค่าปรับ หรือดอกเบี้ยแก่ AOT ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะทยอยชำระเงินต้นที่ค้างไว้ได้ทั้งหมด ถ้าสุดท้ายคิง เพาเวอร์จ่ายไม่ไหวจริง ๆ AOT ก็จะยึดแบงก์การันตี ตามสัญญา ซึ่งวงเงินครอบคลุมรายได้ทั้งหมดที่เราต้องได้รับตามสัญญาอยู่แล้ว” นายกีรติกล่าว
ถ้าอ่านตามนี้ดิวตี้ฟรีก็จ่ายดอกเบี้ยปรับ เอ้า ... แบบนี้ก็ดีจะตายได้ดอกเบี้ย และทยอยจ่ายเป็นงวดๆอย่างสม่ำเสมอ อย่าลืมว่าก่อนหน้านี่ก็ไปตัดสัมปทานดิวตี้ฟรีขาเข้าเค้าอีกนะ จากที่เคยได้ค่าสัมปทานจากดิวตี้ฟรี กลับต้องไปจ่ายค่าปรับให้กับดิวตี้ฟรีแทน จะขาดทุนกำไรก็เพราะการบริหารงานแบบนี้หละ โอละพ่อมั้ยหละแบบนี้? แต่ก็อย่างที่บอกอะไรที่เป็นความผิดตัวเอง เราก็ไม่ควรมาพูดถึงซินะ เรียกได้ว่าต้องมาไล่ตามหาความจริงเอาจากข่าวนี่หล่ะ
แต่สิ่งที่ประชาชนยังคาใจอยู่นั่นก็คือ บรรดาโครงการจัดซื้อตัดจ้างที่ราคากลางสูงติดเพดานแต่เหมือนสนามบินจะไม่ได้มีการพัฒนาอะไรได้เป็นรูปธรรม หรือแม้กระทั่ง การจากโบนัสให้กับพนักงานตัวเอง ที่ทำให้ชาวออฟิศทั้งประเทศไทยอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบๆ ลองคิดกลับกันลดโบนัสลงสักนิดผลกำไรก็เพิ่มขึ้นไม่ใช่หรือ ...แต่เรื่องพวกนี้ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาในการแถลง เนื่องจากเงินในกระเป๋านั้นสำคัญกว่าเป็นไหนๆ
นี่ยังไม่นับข่าวฉาวของท่านผู้อำนวยการการท่าฯ ไม่ว่าจะเป็นการล้มประมูล "จ้างบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสีย" การลดสเป็ค งานก่อสร้างทางวิ่งที่ 3 (รันเวย์ 3) และล่าสุดกรณีทุจริตการจัดซื้อสติ๊กเกอร์ซีทรู (See Through Sticker) เฉลิมพระเกียรติฯสนามบินภูเก็ต บอกเลยว่าอีรุงตุงนังกันไปหมด แต่ก็เหมือนหัวตัวเองแตกก็ไม่เห็นหรอกนะแบบนี้หรือว่า....จะได้กำลังภายในดีหนุนหลังอยู่น้า ถึงได้ไม่กลัวข่าวฉาวกล้าจัดจ้างจัดซื้อแบบถึงลูกถึงคน ก็อย่างว่าเด็กนายก็ไม่มีใครกล้าแตะกันหรอก (มั๊ง..)
ก็ต้องมาลองลุ้นกันว่าสถานการ์ณหุ้น AOT จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้ายังเอาเรื่องที่องค์กรตัวเองทำงานพลาดแล้วทำให้ผลประกอบการลดลงจริงๆ ก็ควรยอมรับกันแบบลูกพี่ชาย อันนี้จะเท่ห์กว่าเป็นไหนๆนะลูกพี่

















