อดีตสามีทนไม่ไหว! หย่าแล้วแต่ยังนอนห้องเดียวกัน ฟังเสียงเมียคุยกับชายอื่นทุกคืน
เปิดใจอดีตสามี: แม้หย่ากันแล้ว แต่ยังคงนอนห้องเดียวกันและพบหลักฐานการนอกใจ
ในวันที่ 13 มีนาคม 2568 รายการ โหนกระแส ซึ่งดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย ได้พูดคุยถึงประเด็นร้อนในโลกโซเชียลที่เกี่ยวกับการหย่าร้างของคู่รักชื่อดังในวงการอินฟลูเอนเซอร์ จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง กับ ตั้ม อดีตสามี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่ายหญิงนอกใจไปคุยกับนักร้องชื่อดัง จนกลายเป็นข่าวร้อนแรงที่ถูกพูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์
เหตุการณ์ที่นำมาสู่การหย่าร้าง
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ ตั้ม อดีตสามีของ จ๊ะโอ๋ ซึ่งอยู่กินกันมาเป็นเวลาถึง 15 ปี และมีลูกด้วยกันสองคน หนึ่งในนั้นคือลูกติดของ จ๊ะโอ๋ และอีกคนเป็นลูกของทั้งสอง หลังจากที่ทั้งคู่เคยมีทะเบียนสมรสและใช้ชีวิตร่วมกันมานาน ตั้มยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องข่าวลือเกี่ยวกับการนอกใจของภรรยามาก่อน เนื่องจากเขาไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดีย และไม่ติดตามข่าวสารในโลกออนไลน์
จนกระทั่งวันที่ 26 มิถุนายน 2566 ภรรยาของเขาได้โทรมาตามให้เขาเข้าไปเซ็นใบหย่า ณ ที่ว่าการอำเภอ โดยไม่ให้เหตุผลว่าทำไมต้องหย่า ตั้มไม่ถามอะไรมากเพราะคิดว่าเป็นเรื่องธุรกิจ แต่เมื่อเซ็นเสร็จก็ยังคงกลับมาบ้านและใช้ชีวิตตามปกติ โดยนอนห้องเดียวกับ จ๊ะโอ๋ ต่อไป
การค้นพบหลักฐานที่ทำให้มั่นใจ
ความสัมพันธ์เริ่มมีปัญหาจริงจังเมื่อ ลูกคนโต มาบอกว่าในโรงเรียนมีเพื่อนล้อเกี่ยวกับข่าวที่แม่ของเขามีความสัมพันธ์กับใครบางคน ตั้มเริ่มระแคะระคายและตัดสินใจไปดู กล้องหน้ารถ ของตัวเอง ซึ่งบันทึกเสียงที่น่าสงสัยเอาไว้ โดยเสียงที่บันทึกได้เป็นการสนทนาระหว่าง จ๊ะโอ๋ กับ นักร้องดัง ที่นัดแนะไปเที่ยวด้วยกัน สุดท้ายตั้มก็มั่นใจว่าภรรยาของเขานอกใจไปมีความสัมพันธ์กับนักร้องคนนี้จริง
ตั้มยังกล่าวว่าเขาต้องทนฟัง การโทรศัพท์ ของภรรยาที่พูดคุยกับนักร้องในทุกๆ คืน ซึ่งเขาได้ยินทุกครั้งขณะที่นอนอยู่ห้องเดียวกันกับเธอ ความรู้สึกของเขาในตอนนั้นนั้นไม่ต่างอะไรจากการถูกทรยศ จึงเริ่มหาหลักฐานเพิ่มเติมจนพบ ภาพถ่าย ของภรรยากับนักร้องคนดัง ที่ถูกซ่อนไว้ใต้ ฐานพระ ทำให้เขาใจสลายยิ่งขึ้น
การทรยศและอดทนต่อไป
แม้ว่า ตั้ม จะเจอหลักฐานการนอกใจแล้ว แต่เขาก็อดทนมาเสมอเพราะ จ๊ะโอ๋ ได้บอกให้เขารอและอดทน ตั้มไม่เคยยอมแพ้และยังคงคอยรอการกลับมาของภรรยาในวันหนึ่งวันใด แต่ความอดทนของเขาก็ถึงขีดสุด เมื่อเขาพบ คลิปเสียง ที่บันทึกได้จาก กล้องวงจรปิด ในเดือน พฤศจิกายน 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้หลังจากหย่ากันแล้ว จ๊ะโอ๋ ยังคงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เมื่อยังคงเดินจับปากกับเขาก่อนออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระ
การตัดสินใจและการเปิดเผยเรื่องราว
เมื่อความอดทนถึงขีดสุด ตั้มไม่สามารถทนความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด โดยโพสต์คลิปเสียงต่างๆ ที่มีการพูดคุยกันระหว่าง จ๊ะโอ๋ กับนักร้องดัง และเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ อีซ้อขยี้ข่าว ซึ่งทำให้เรื่องราวกลายเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว
ตั้มยังกล่าวว่า เงินที่ได้มา จากธุรกิจที่เขาร่วมกับ จ๊ะโอ๋ นั้นเป็น เงินร่วมกัน ที่ทั้งสองได้สร้างมา โดยเขาเป็นคนลงแรงวิ่งรับของและช่วยจัดหาวัตถุดิบให้เธอขาย ในขณะที่ จ๊ะโอ๋ ก็ทำการขายสินค้าออนไลน์ผ่านการไลฟ์
การตอบโต้จากฝ่ายหญิง
หลังจากที่ ตั้ม ออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านรายการ โหนกระแส ฝั่งของ จ๊ะโอ๋ ก็ได้ออกมาตอบโต้โดยการแจ้งความกับอดีตสามีของเธอหลังจากที่ถูกแฉความสัมพันธ์ในครั้งนี้ โดยเธอยืนยันว่า ท่าที ที่ตั้มแสดงออกมานั้นคือการพยายามสร้างกระแสและไม่ควรมีการทำร้ายจิตใจของลูกๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
สรุป
เรื่องราวของ ตั้ม และ จ๊ะโอ๋ แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักที่เกิดปัญหาการนอกใจ และผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลในโลกออนไลน์ การตอบโต้และเปิดเผยหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมออนไลน์ ถึงแม้ว่า ตั้ม จะเลือกที่จะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการนอกใจของภรรยาและความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญ แต่เรื่องราวนี้ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์
อ้างอิงจาก: ข้อมูลและภาพจาก รายการโหนกระแส
















