อากาศของบังคลาเทศแย่เป็นอันดับ 2 ของโลก
บังกลาเทศคือประเทศที่มีมลพิษมาก เป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2024 โดยมีระดับหมอกควันโดยเฉลี่ยสูง เกินแนวทางขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมากกว่า 15 เท่า ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย "ไอคิว แอร์" ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบคุณภาพอากาศ ของสวิตเซอร์แลนด์
บังคลาเทศ มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก โดยมีค่า PM2.5 เฉลี่ยอยู่ที่ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือชาด 128 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยปากีสถาน 73.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 58.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อินเดีย 50.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ข้อมูลดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่าธากา เป็นเมืองหลวงที่มีมลพิษมากที่สุด เป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2024 โดยมีระดับ PM2.5 เฉลี่ยอยู่ที่ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย มีมลพิษมากที่สุด 91.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยเอ็นจาเมนา เมืองหลวงของชาด 91.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กินชาซา เมืองหลวงของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 58.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่อิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน 52.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] นักวิจัยเตือนว่า "การจัดการกับหมอกควันจะยิ่งท้าทายมากขึ้น หลังจากที่อเมริกาตัดสินใจยุติ การติดตามคุณภาพอากาศทั่วโลก" และ "มีเพียงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บาฮามาส บาร์เบโดส เกรเนดา เอสโตเนีย และ ไอซ์แลนด์เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศของ WHO ในปีที่แล้ว"
ซีอีโอระดับโลก "แฟรงก์ แฮมเมส" ของ "ไอคิว แอร์" กล่าวว่า "มลพิษทางอากาศ ยังคงเป็นภัยคุกคามสำคัญ ต่อสุขภาพของมนุษย์ และ ต่อเสถียรภาพของสิ่งแวดล้อม แต่ประชากรจำนวนมากยังไม่ตระหนักถึง ระดับการได้รับมลพิษนี้" และ "อเมริกายอมรับว่าการเข้าถึงอากาศบริสุทธิ์ เป็นสิทธิมนุษยชนสากล"
การสัมผัสกับ PM2.5 อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหอบหืด โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคปอด นอกจากนี้ การสัมผัสกับฝุ่นละอองขนาดเล็กในระดับสูง ระหว่างตั้งครรภ์และวัยเด็ก ยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด กลาก โรคภูมิแพ้ ความบกพร่องทางสติปัญญา ความผิดปกติของพัฒนาการทางระบบประสาท และปัญหาสุขภาพจิต เป็นต้น...









