พายุไซโคลนอัลเฟรดพัดถล่มออสเตรเลียตะวันออกอย่างหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้
พายุไซโคลนอัลเฟรดพัดขึ้นฝั่งที่ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย พัดด้วยความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. ต้นไม้หักโค่น โครงสร้างพื้นฐานพังทลาย และหลังคาบ้านพัง ทำให้เกิดน้ำท่วมและความวุ่นวายบนชายฝั่ง แม้ว่าตอนนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ยังคงส่งผลกระทบรุนแรง
เมื่อเช้าวันที่ 10 มีนาคม ครัวเรือนจำนวน 318,387 หลังคาเรือนในรัฐควีนส์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยโกลด์โคสต์ได้รับผลกระทบหนักที่สุดโดยประชาชนกว่า 112,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากพายุ เจ้าหน้าที่เตือนว่าน้ำท่วมอาจทำให้การซ่อมแซมล่าช้าออกไปอีก คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักและพายุต่อเนื่องในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่งผลให้มีคำเตือนเรื่องน้ำท่วมในแม่น้ำหลายสายทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์
งานกู้ภัยยังได้รับผลกระทบด้วย โดยรถทหาร 2 คันชนกันในน้ำท่วม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน ภัยพิบัติครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 1 ราย และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้าน ควีนส์แลนด์ได้เริ่มกลับมาเปิดให้บริการขนส่งสาธารณะและบริการเชิงพาณิชย์บางส่วนอีกครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศเริ่มดีขึ้น แต่ความเสียหายยังคงต้องได้รับการประเมินต่อไป
ที่มา: รอยเตอร์















