สัปดาห์แห่งความขัดแย้งของทรัมป์ทำให้ตลาด พันธมิตร และรัฐบาลของเขาสั่นคลอน
เสียงระฆังของรัฐสภาดังก้องไปทั่ววอชิงตัน ดี.ซี. ในค่ำคืนหนึ่งที่เคร่งเครียด บนโพเดียมกลางห้องประชุม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ประจำปี ฝั่งหนึ่งของห้อง สมาชิกพรรครีพับลิกันปรบมือกึกก้อง แต่อีกฝั่งกลับเต็มไปด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งของสมาชิกพรรคเดโมแครต
“ประเทศนี้ต้องแข็งแกร่งขึ้น ต้องลดภาระของรัฐบาล และต้องมีผู้นำที่กล้าตัดสินใจ” ทรัมป์กล่าว ดวงตาจับจ้องไปที่เหล่านักการเมืองตรงหน้า
ในขณะที่คำพูดของเขาสร้างความฮึกเหิมให้ผู้สนับสนุน แต่ที่ด้านนอกห้องประชุม เมืองทั้งเมืองกลับสั่นสะเทือนด้วยคลื่นแห่งความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นผันผวน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแตกร้าว และแม้แต่รัฐบาลของเขาเองก็เผชิญกับแรงเสียดทานที่ยากจะควบคุม
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญกับเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับพันธมิตร และความมั่นคงภายในรัฐบาลของเขาเอง เหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความสั่นคลอนในหลายด้าน ดังนี้:
ความตึงเครียดทางการทูตกับยูเครน
การประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2025 จบลงด้วยความตึงเครียด ทรัมป์ขู่ว่าจะระงับการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน โดยกล่าวว่าเซเลนสกี "ไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ" ด้านเซเลนสกียืนยันที่จะไม่ประนีประนอมกับรัสเซีย เนื่องจากไม่สามารถไว้วางใจประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้ การเจรจาที่ล้มเหลวนี้ส่งผลให้เกิดรอยร้าวรุนแรงทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน
ท่าทีต่อรัสเซีย: ขู่คว่ำบาตรและขึ้นภาษี
วันที่ 9 มีนาคม 2025 ทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและขึ้นภาษีต่อรัสเซีย หากยังคงโจมตียูเครน เขาเรียกร้องให้รัสเซียและยูเครนเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหยุดยิงและบรรลุข้อตกลงสันติภาพ
สุนทรพจน์ในรัฐสภา: ความแตกแยกภายในประเทศ
ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ทรัมป์ยกย่องอีลอน มัสก์ ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงการประท้วงด้วยการตะโกนและชูป้ายข้อความ เช่น "เท็จ" และ "มัสก์หัวขโมย" เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความแตกแยกทางการเมืองภายในประเทศ
ผลกระทบต่อตลาดการเงินและพันธมิตร
ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตร โดยเฉพาะในยุโรป นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของทรัมป์ยังสร้างความกังวลในภูมิภาคเอเชีย
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ การจัดการสถานการณ์เหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอนาคต















