จับตา! พม่าสร้าง “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 110 MW” ที่ทวายห่างกรุงเทพฯ 300 กม.
วันที่ 5 มีนาคม 2568 พล.ต.ส่อมินทูน โฆษกสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) พม่า เปิดเผยว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจะถูกใช้เป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ขนาดกำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างพม่าและรัสเซีย และเป็น 1 ใน 10 ข้อตกลงที่พม่าและรัสเซียได้มีการลงนามกันระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ประธาน SAC ซึ่งได้มีการพบและเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 มีรายงานว่า ประเทศพม่าเตรียมสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กำลังผลิต 110 เมกะวัตต์ (MW) ในพื้นที่เขตทวาย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 300 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรีประมาณ 132 กิโลเมตร
รายงานข่าวดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพม่า ซึ่งจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 110 เมกะวัตต์ (MW) ตั้งอยู่ที่เขตทวาย ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของพม่า โดยห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 300 กิโลเมตร ข้อมูลนี้มีความสำคัญเนื่องจากพม่าเป็นประเทศที่มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานอย่างต่อเนื่อง และการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถือเป็นโครงการที่สำคัญเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ
นอกจากนี้ พื้นที่ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะถูกสร้างนั้นตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนไทย ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหมายความว่าโครงการนี้อาจส่งผลต่อทั้งประเทศไทยและพม่าในด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบจากการปล่อยสารเคมีหรือมลพิษทางนิวเคลียร์หากเกิดอุบัติเหตุ
แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะระบุถึงแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ก็ยังไม่มีการเผยข้อมูลหรือแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการนี้จากรัฐบาลพม่า ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่าความโปร่งใสและการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบในอนาคต
การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในพม่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์หลายประการ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาและเสริมความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศ ซึ่งพม่าเองมีความต้องการในการเพิ่มปริมาณพลังงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในประเทศ การมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะช่วยให้พม่าไม่ต้องพึ่งพิงแหล่งพลังงานฟอสซิลที่อาจก่อให้เกิดมลพิษหรือขาดแคลนในอนาคต
นอกจากประโยชน์ในด้านพลังงานแล้ว โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของพม่า ซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชาติและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจีนและไทยที่มีการลงทุนในพม่า การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาจทำให้พม่ามีบทบาทสำคัญในด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้ ทั้งในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการการควบคุมที่เข้มงวดในการจัดการและการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุหรือการปล่อยสารกัมมันตภาพรังสีที่อาจส่งผลเสียต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโครงการนี้ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งสองประเทศได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในการตรวจสอบและประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างรอบคอบ
การมีการสื่อสารที่โปร่งใสและการประเมินผลกระทบที่ชัดเจนจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในโครงการนี้และลดความกังวลจากทั้งภาครัฐและประชาชนในทั้งพม่าและประเทศไทย

















