ด่วน!! โรคลึกลับระบาดที่คองโกหลังจากเด็กไปกินค้างคาวแล้วเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง!!
โรคลึกลับระบาดที่คองโก หลังเด็กกินค้างคาว ดับภายใน 48 ชั่วโมง
คองโก - เกิดการระบาดของโรคลึกลับในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการบริโภคค้างคาว
ต้นตอการระบาด
การระบาดครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในหมู่บ้านโบโลโก (Boloko) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเอกวาเตอร์ (Équateur) ทางตอนเหนือของคองโก เด็กสามคนในหมู่บ้านเสียชีวิตหลังจากบริโภคค้างคาวที่ตายแล้ว โดยมีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย และเลือดออกภายใน ก่อนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีชาวบ้านที่สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กเหล่านี้เริ่มมีอาการป่วยคล้ายกัน
ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทางการพยายามสืบสวนต้นตอของโรค พบว่าการระบาดลุกลามไปยังหมู่บ้านโบมาเต (Bomate) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 120 กิโลเมตร รายงานล่าสุดระบุว่ามีผู้ป่วยรวมกว่า 419 ราย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย
อาการของโรค
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีอาการที่รุนแรงและฉับพลัน ซึ่งรวมถึง
- ไข้สูง
- อ่อนเพลียอย่างรุนแรง
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- อาเจียนและท้องเสียรุนแรง
- เลือดออกทางปาก จมูก และดวงตา
- อวัยวะภายในล้มเหลว
ที่น่ากังวลคือ ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตภายในเวลาเพียง 24-48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มแสดงอาการ ซึ่งเป็นอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก
การสืบสวนของหน่วยงานสาธารณสุข
องค์การอนามัยโลก (WHO) และกระทรวงสาธารณสุขของคองโกได้ส่งทีมแพทย์เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยทำการเก็บตัวอย่างเลือดจากผู้ป่วย 13 รายเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของโรค เบื้องต้นไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola) หรือไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg) ซึ่งเป็นไวรัสร้ายแรงที่พบในแอฟริกา
ขณะนี้ ทีมแพทย์กำลังตรวจสอบว่าโรคดังกล่าวอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- มาลาเรียรุนแรง
- อาหารเป็นพิษจากสารพิษในค้างคาว
- ไข้ไทฟอยด์ชนิดรุนแรง
- การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียชนิดใหม่
ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า โรคนี้อาจเกี่ยวข้องกับไวรัสชนิดใหม่ที่แพร่จากสัตว์สู่คน เนื่องจากการบริโภคค้างคาวเป็นเรื่องปกติในหลายพื้นที่ของคองโก และค้างคาวเป็นแหล่งรังโรคของเชื้อไวรัสหลายชนิด
ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด
WHO เตือนว่าการระบาดครั้งนี้อาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรง เนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีระบบเฝ้าระวังโรคและโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขที่จำกัด นอกจากนี้ การแพร่ระบาดเกิดขึ้นในหมู่บ้านห่างไกล ทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์เป็นไปได้ยาก
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเร่งควบคุมการแพร่ระบาด โดยออกมาตรการต่อไปนี้
- กักกันผู้ป่วย – กำลังจัดตั้งศูนย์กักกันชั่วคราวเพื่อลดการแพร่เชื้อ
- ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด – เจ้าหน้าที่กำลังติดตามผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ป่วยเพื่อตรวจสอบอาการ
- ห้ามบริโภคสัตว์ป่า – รัฐบาลท้องถิ่นออกคำเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์ป่าโดยเฉพาะค้างคาว
- เพิ่มมาตรการตรวจสอบที่สนามบินและชายแดน – เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดออกไปนอกประเทศ
ความเป็นไปได้ของโรคอุบัติใหม่
นักไวรัสวิทยาจากสถาบันโรคติดเชื้อแอฟริกากล่าวว่า การระบาดครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอุบัติใหม่ที่แพร่จากสัตว์สู่คน ซึ่งอาจเกิดจากไวรัสที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน เนื่องจากแอฟริกากลางเป็นแหล่งรังโรคของไวรัสหลายชนิด รวมถึงเชื้อที่คล้ายกับโคโรนาไวรัส (Coronavirus) และไวรัสไนปาห์ (Nipah Virus)
นักวิจัยบางส่วนยังตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีสารพิษบางชนิดที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรียปนเปื้อนในค้างคาว ทำให้ผู้บริโภคเกิดภาวะพิษเฉียบพลันและเสียชีวิตในเวลาอันสั้น
สรุปสถานการณ์
- มีผู้ป่วยกว่า 419 ราย และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 ราย
- ผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ
- เบื้องต้นไม่พบเชื้ออีโบลาและมาร์บวร์ก แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
- มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นไวรัสชนิดใหม่ หรือสารพิษจากอาหาร
- ทางการกำลังเร่งสอบสวนและควบคุมการระบาด
ขณะนี้ WHO และหน่วยงานสาธารณสุขของคองโกกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมออกคำแนะนำเพิ่มเติมหากพบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับต้นตอของโรค




















