หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“บ้านเพื่อคนไทย” สวนทางนโยบายที่อยู่อาศัยโลก

โพสท์โดย doctorsopon

           

 

นโยบายที่อยู่อาศัยระดับโลกที่ทันสมัยและล่าสุดเป็นอย่างไร สวนทางกับ “บ้านเพื่อคนไทย” ของประเทศไทยอย่างไร ไทยเราพึงสังวรว่าจะสร้างปัญหาที่อยู่อาศัยหรือแก้ปัญหาให้กับประชาชนกันแน่

            ผมในฐานะประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้เคยเป็นที่ปรึกษาองค์การสหประชาชาติหลายแห่งต่างได้ข้อสรุปในทำนองเดียวกันว่านโยบายที่อยู่อาศัยทั่วโลกคือการสนับสนุนให้ภาคเอกชนสร้างที่อยู่อาศัยกันเองโดยรัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซงตลาด ทำให้กลไกตลาดสามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา

            องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization) เคยมอบหมายให้ผมศึกษาว่าทำไมในประเทศไทยจำนวนชุมชนแออัดจึงลดลงเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์และไต้หวันที่มีแนวโน้มไปในทำนองเดียวกัน ในปี 2529 ที่ผมไปสิงคโปร์ครั้งแรก ยังพบชุมชนแออัดอยู่ประปราย หรือในปี 2530 ที่กรุงโตเกียว ก็ยังมีย่าน “แหล่งเสื่อมโทรม” ส่วนเกาหลีในปี 2542 ที่ผมไปเยือนก็ยังมีชุมชนแออัดมากมายปกคลุมเนินเขาเป็นลูกๆ แต่ปัจจุบันก็ไม่มีแล้ว แต่ในหลายประเทศชุมชนแออัดก็ยังมีและขยายตัวเพิ่มขึ้น

            หลายคนที่เคยไปอินเดีย คงพบเห็นคนนอนข้างถนนและชุมชนแออัดมากมาย มีนักการเมืองมาแจกเหล้าเพื่อหาเสียง ตลอด 20 กว่าปีที่ผมไปอินเดีย เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ชุมชนแออัดกลับลดลงอย่างชัดเจน (แม้ว่ายังมีอยู่อีกมาก) สาเหตุที่ประเทศข้างต้นมีปรากฏการณ์การลดลงของชุมชนแออัด (Shrinkage) ก็เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจดี คนก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ในสมัยที่ผมทำงานอยู่การเคหะแห่งชาติ ผมจำได้ว่าแถวชุมชนแออัดวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) มีคนต่างจังหวัดเข้าไปถามหาบ้านเช่ากันบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้มีบ้านเช่า อพาร์ตเมนต์ แฟลต ฯลฯ มากมายที่ให้คนเช่าโดยไม่ต้องเข้าไปอยู่ในชุมชนแออัดแล้ว

            ผมยังเคยเขียนรายงานกลไกการเงินเคหะการ (Housing Finance Mechanism in Thailand) ให้กับองค์การสหประชาชาติด้านที่อยู่อาศัย (UN Habitat) 1 เล่มร่วมกับนักวิจัยชาติอื่นที่เขียนในกรณีศึกษาประเทศอื่นอีกนับสิบประเทศ และได้ผลสรุปตรงกันว่านโยบายที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดก็คือนโยบายการสนับสนุน (Enabling Policy) คือการสนับสนุนให้ภาคเอกชนพัฒนาระบบที่อยู่อาศัยกันเอง

            อย่างไรก็ตามนโยบายนี้ได้รับการตีความผิดๆ ในช่วงหนึ่งเช่น การให้ชาวบ้านสร้างบ้านเอง (Self-Help Housing หรือ Sites-and-Services Scheme) คือมองว่าบ้านราคาแพง จำเป็นต้องให้ชาวบ้านค่อยๆ ออกแรงสร้างบ้านกันเอง (แบบค่อยๆ สร้างรังนกของตนเอง) รัฐบาลไปสร้างให้บางส่วนแล้วชาวบ้านค่อยๆ ต่อเติม แต่ในความเป็นจริงต้นทุนในการสร้างบ้านเองกลับแพงกว่าการซื้อบ้านจัดสรรที่สร้างเสร็จในเชิงอุตสาหกรรม (Turn-key Housing)

            สำหรับ Enabling Policy นั้น รัฐบาลต้องไม่สร้างเอง แต่สนับสนุนให้ภาคเอกชนสร้าง แต่รัฐบาลสามารถที่จะตั้งเป้าได้ว่าจะให้มีบ้านเกิดใหม่เท่าไหร่ จึงจะพอเพียงกับความต้องการของประชาชนได้ เช่น รัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีนโยบายความฝันของอเมริกัน (American Dream) ที่จะส่งเสริมการสร้างบ้านเพื่อให้คนอเมริกันมีบ้านกันมากๆ จะได้รักถิ่นฐาน สร้างฐานะ ที่ออสเตรเลียก็เช่นกัน

            รัฐบาลไทยก็คิดไปลอกเลียนแบบเขาบ้างโดยสร้าง “บ้านเอื้ออาทร” และ “บ้านเพื่อคนไทย” แต่ไปลอกการบ้านผิด เพราะรัฐบาลทำเอง ไม่ได้ส่งเสริมให้ภาคเอกชนทำ แถมได้ข้อมูลมาผิดๆ อีกด้วย เช่น รัฐบาลเข้าใจว่าประเทศไทยยังมีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ซึ่งปัญหานี้ผ่านพ้นไปแล้ว ประเทศไทยมีครัวเรือนที่มีบ้านเป็นของตนเองถึง 74% แต่ในสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนผู้เป็นเจ้าของบ้านเพียง 65.7% และออสเตรเลียมีเพียง 66.7% เราจึงไม่ต้องไปสร้างบ้านอะไรมากมาย (โปรดดูจดหมายถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ เรื่อง “บ้านเพื่อประเทศไทย”: www.area.co.th/t/8408)

            ในประเทศไทย เรามี “แฟลตปลาทอง” ตั้งแต่ปี 2532 สร้างจำนวนมหาศาลกว่าของการเคหะแห่งชาติ สร้างในราคาถูกมากอีกด้วย ประเทศไทยยังมีบริษัทพัฒนาที่ดินอีกหลายแห่งที่สร้างบ้านราคาถูกโดยบางแห่งอาจจะถูกกว่าของการเคหะแห่งชาติด้วย นับได้ว่า “ฟ้าส่งการเคหะแห่งชาติมาเกิด ในต้องส่ง ‘แอลพีเอ็น’ ‘พฤกษา’ ‘รีเจนท์กรุ๊ป’ มาเกิดด้วย” (ทำนอง “ฟ้าส่งจิวยี่มาเกิด ใยต้องส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย”)

            ในยุคสมัยใหม่เช่นใน OECD (https://lnkd.in/gMRHtMf9) ก็ให้ข้อคิดเกี่ยวกับนโยบายที่อยู่อาศัยไว้ว่า:

            • คำนึงถึงลักษณะของนโยบายที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย

            • การใช้สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ช่วยให้การจัดหาที่อยู่อาศัยสามารถตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพและตามความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            • ดำเนินกลยุทธ์นโยบายที่ส่งเสริมการเข้าถึงที่อยู่อาศัยคุณภาพราคาไม่แพงสำหรับทุกคนและหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกในรูปแบบต่างๆ

            • จัดให้มีการเงินที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมในลักษณะที่สอดคล้องกับความมั่นคงทางการเงิน ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

            สำหรับธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียที่ผมเคยเป็นที่ปรึกษาก็มีการศึกษาชัดเจนว่า “บทบาทการพัฒนาของธนาคารโลกในภาคที่อยู่อาศัย. . .เกี่ยวกับวิธีการทำงานของภาคที่อยู่อาศัย เช่น อุปสงค์ที่อยู่อาศัย อุปทานที่อยู่อาศัย การกำหนดผลลัพธ์ที่สำคัญในภาคนี้ และความเชื่อมโยงระหว่างภาคที่อยู่อาศัย ความยากจน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในวงกว้าง. . .” (https://lnkd.in/gEtkgVRY) ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลไม่ต้องไปทำเองเพียงออกนโยบายที่เหมาะสม

            ดังนั้นการที่รัฐบาลไปสร้างเอื้ออาทรที่เคยวางเป้าไว้ 1 ล้านหน่วยจึงไม่เหมาะสม แม้จะลดเป้าเหลือ 6 แสนหน่วย แต่สร้างจริงเพียงไม่ถึง 3 แสนหน่วย และยังมีบ้านว่างและโครงการร้าง จึงเป็นสิ่งที่ควรทบทวน ยิ่งในระยะนี้รัฐบาลยังจะสร้าง “บ้านเพื่อคนไทย” ในที่ดินราคาแพงของการรถไฟแห่งประเทศไทยจำนวน 1-3 แสนหน่วยหรืออาจถึงล้านหน่วย จึงเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง แทรกแซงตลาด และทำให้ทรัพยากรของชาติซึ่งก็คือที่ดินในทำเลทองของการรถไฟฯ ถูกนำมาใช้โดยจ่ายค่าเช่าราคาถูก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่

            ผมในฐานะประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงนำเสนอว่าขณะนี้ยังมีห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทรอบๆ “บ้านเพื่อคนไทย” กม.11 (หลัง ป.ต.ท.สำนักงานใหญ่ จตุจักร) อีก 1,111 หน่วยในมือผู้ประกอบการ และถ้ารวมมือสองด้วยยังมีห้องชุดราคาไม่เกินล้านอีกมาก และทั่ว กทม.และปริมณฑลยังมีบ้านและห้องชุดในมือผู้ประกอบการที่ราคาไม่ถึง 3 ล้านบาทอีก 1.1 แสนหน่วย หากรวมบ้านมือสองด้วยก็คงอีก 2 แสนหน่วย รัฐบาลจึงไม่ควรสร้างใหม่เลย

            รัฐบาลทั่วโลกและรัฐบาลไทยพึงยึดมั่นในนโยบายส่งเสริมภาคเอกชนพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยมาตรการด้านการเงิน ภาษี ฯลฯ ไม่ใช่ไปสร้างแข่งกับภาคเอกชน

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.area.co.th/t/8607
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
doctorsopon's profile


โพสท์โดย: doctorsopon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: Taweelux, sky555
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวเกาหลีมาไทยครั้งแรก คิดว่าเหมือนเวียดนาม...เจอกรุงเทพเข้าไป ถึงกับร้องว่า “เห้ย นี่มันมหานคร”พาสองสาวมะกันไปซื้อเสื้อผ้าในไทย เจอร้าน “รักแคลอรี่” ถึงกับอึ้งแจกสูตรปีกไก่ทอดน้ำปลา กรอบนอกนุ่มใน หอมฟุ้งถึงใจ ทำกินเองก็ง่าย ทำขายก็รุ่งแทคไม่ทน! โพสต์ถึง “ลูกพีช” หลังนั่งเก้าอี้ สท. คนแห่แชร์สนั่นเปิดเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ ของสมเด็จพระสันตปาปาเลโอที่ 14“กินหญ้าหวาน?” กัน จอมพลัง ฟาดกลับคำพูดนายกฯเบี้ยว อันนี้คือคำชมเหรอล่าตัว "ไอ้เตี้ย" วินที่ไปรับ คุณยายอายุ 89 ปี สุดท้ายเจอร่างยายยัดกระสอบทิ้ง!"ยอดฟ้าฝรั่งกลางคุ้งเพชรบุรี: เมื่ออดีตหรูหราถูกปลุกชีพอีกครั้งใน ‘อาศรมพินิจ’"การทำทาร์ตไข่เนื้อเด้งดึ๋ง สูตรละเอียด พร้อมเคล็ดลับให้เนื้อเนียนละมุนทุกคำแม่ช้างพยายามช่วยลูกช้างหลังโดนรถบรรทุกชนและทับเละTali Kopi สัตหีบ😉 ชวนเข้ามาดูรูปภาพลวงตาที่จะช่วยผลักดันจินตนาการของคุณให้ก้าวข้ามขีดจำกัด 😆
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โศกนาฏกรรมในพม่า: กองทัพเมียนมาร์โจมตีทางอากาศถล่มโรงเรียน เด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย"The Oriental Lion" ประติมากรรมไม้เรดวูดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิงโตคำรามแห่งเอเชียอันยิ่งใหญ่bake: อบ😉 ชวนเข้ามาดูรูปภาพลวงตาที่จะช่วยผลักดันจินตนาการของคุณให้ก้าวข้ามขีดจำกัด 😆7 วิธีกำราบเมียเลขเด็ด "ทักษามหารานี" งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 68..อยากรวย รีบส่องเลย!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
โศกนาฏกรรมในพม่า: กองทัพเมียนมาร์โจมตีทางอากาศถล่มโรงเรียน เด็กเสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายแทคไม่ทน! โพสต์ถึง “ลูกพีช” หลังนั่งเก้าอี้ สท. คนแห่แชร์สนั่นลิลลี่เปิดใจ! ร้องไห้บนเครื่องบินเพราะแพนิคจริง ไม่ใช่สร้างคอนเทนต์“กินหญ้าหวาน?” กัน จอมพลัง ฟาดกลับคำพูดนายกฯเบี้ยว อันนี้คือคำชมเหรอ
ตั้งกระทู้ใหม่