นอร์เวย์กำลังวางแผนที่จะสร้างอุโมงค์ลอยน้ำแห่งแรกของโลก
ท่ามกลางขุนเขาและฟยอร์ดอันงดงามของนอร์เวย์ กำลังจะเกิดการปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานครั้งยิ่งใหญ่—อุโมงค์ลอยน้ำแห่งแรกของโลกที่ทอดยาว 27 กิโลเมตร และจมลึกลงไปใต้ผืนน้ำประมาณ 30 เมตร โครงการอันทะเยอทะยานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวง E39 ที่จะช่วยให้ผู้เดินทางสามารถขับรถข้ามฟยอร์ดได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องพึ่งพาเรือข้ามฟาก ซึ่งเป็นอุปสรรคของการเดินทางตามแนวชายฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์มาอย่างยาวนาน
ปัจจุบัน การเดินทางระหว่างเมืองทรอนด์เฮมและคริสเตียนแซนด์ต้องใช้เวลาถึง 21 ชั่วโมง และมีจุดเปลี่ยนเรือข้ามฟากหลายแห่ง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์และเศรษฐกิจในภูมิภาคอีกด้วย อุโมงค์ลอยน้ำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาการเดินทางลงเหลือเพียง 11 ชั่วโมง ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อุโมงค์จะถูกสร้างขึ้นเป็นท่อคอนกรีตสองเส้นที่ขนานกัน รองรับทั้งการเดินทางขาเข้าและขาออก โครงสร้างนี้จะถูกยึดกับทุ่นลอยน้ำบนผิวน้ำ และมีสายยึดตรึงไว้กับพื้นทะเลเพื่อรักษาเสถียรภาพ ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้เรือสามารถแล่นผ่านด้านบนของอุโมงค์ได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ขณะเดียวกันก็เปิดพื้นที่ใต้โครงสร้างให้เรือดำน้ำสามารถแล่นผ่านได้โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสภาพแวดล้อมของฟยอร์ด
ความท้าทายของโครงการไม่ได้มีเพียงแค่ด้านวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนและแรงกระทำจากกระแสน้ำในมหาสมุทร นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาความปลอดภัยสูงสุดต่อทั้งผู้ใช้ทางและสัตว์น้ำในพื้นที่อีกด้วย การสร้างอุโมงค์ลอยน้ำในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ท้าทายเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ถ้าสำเร็จ จะเป็นการพลิกโฉมการคมนาคมทั่วโลก
โครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านปอนด์ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2593 แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่มหาศาล แต่ผลกระทบในระยะยาวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดมลพิษจากเรือข้ามฟาก และช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น การสร้างอุโมงค์ลอยน้ำยังเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวทางใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน เช่น อลาสกา ญี่ปุ่น หรือหมู่เกาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอาจนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาการคมนาคมในอนาคต
อุโมงค์ลอยน้ำแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จทางวิศวกรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความก้าวหน้าของมนุษย์ในการเผชิญกับข้อจำกัดของธรรมชาติ นอร์เวย์กำลังจะเป็นผู้นำในแนวคิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการเดินทางของโลกไปตลอดกาล















