ภรรยายอมรับผิดแทนสามี กราบขอโทษ ปมทำร้ายพยาบาล
ดราม่าเดือด! ชายตบหน้าพยาบาล 2 ครั้งกลางโรงพยาบาลที่ระยอง เหตุไม่พอใจถูกเตือนพาลูกเล็กเข้าเยี่ยมผู้ป่วยติดเชื้อ
กลายเป็นกระแสร้อนแรงในสังคมออนไลน์ หลังเกิดเหตุการณ์ ชายตบหน้าพยาบาล 2 ครั้ง ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากพยาบาลได้ตักเตือนภรรยาของผู้ก่อเหตุว่า ไม่ควรพาลูกเล็กเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ลงปอด ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของเด็ก
อย่างไรก็ตาม คำเตือนดังกล่าวกลับทำให้เกิดความไม่พอใจในครอบครัวของผู้ก่อเหตุ และนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ชัดเจน หลังเกิดเหตุพยาบาลได้เข้าแจ้งความ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เปิดคลิปวงจรปิด! นาทีชายบุกตบพยาบาล 2 ครั้ง ก่อนเดินออกจากจุดเกิดเหตุ
เมื่อวานนี้ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเผยให้เห็นเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุอย่างชัดเจน
จากคลิปจะเห็นได้ว่า ชายผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล พร้อมถามหาว่าใครเป็นคนที่พูดไม่ดีกับภรรยาของตน ก่อนที่พยาบาลผู้เสียหายจะเดินออกมาแสดงตัว หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวก็ ตบเข้าที่ใบหน้าพยาบาลอย่างแรง 1 ครั้ง และ ซ้ำอีก 1 ครั้ง ท่ามกลางความตกใจของผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น
หลังจากทำร้ายร่างกายเสร็จ ชายผู้ก่อเหตุได้พูดบางอย่างและเดินออกไปจากจุดเกิดเหตุ ทิ้งให้พยาบาลผู้เสียหายอยู่ในอาการช็อกและตกใจ
กระแสสังคมแตกเป็นสองฝ่าย: พยาบาลใช้คำพูดแรงเกินไป หรือ ชายผู้ก่อเหตุไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรง?
เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมออนไลน์ โดยมีผู้คนแสดงความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายแรก เห็นใจพยาบาล และมองว่า ถึงแม้พยาบาลจะใช้คำพูดที่ดูรุนแรง แต่เธอมีเจตนาดีในการเตือนเพื่อปกป้องเด็กจากการติดเชื้อ อีกทั้ง ไม่มีใครควรใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตบพยาบาลในที่ทำงานของเธอ
ฝ่ายที่สอง มองว่า พยาบาลอาจใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม และอาจพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ญาติของผู้ป่วยรู้สึกไม่ดี ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น
ดราม่าครั้งนี้กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย หลายคนตั้งคำถามว่า พฤติกรรมของบุคลากรทางการแพทย์บางคนอาจมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือไม่?
พยาบาลผู้เสียหายเผย! เตือนเพราะห่วงเด็ก อาจติดเชื้อรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
ในรายการโหนกระแสวันนี้ ได้มีการสัมภาษณ์ พยาบาลที่อยู่ในเหตุการณ์ (ไม่ใช่ผู้ที่ถูกตบโดยตรง) รวมถึง นายกองตรี ธนกฤต และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล
คุณปราย พยาบาลที่ถูกทำร้าย ได้เปิดเผยว่า เธอไม่ได้เป็นพยาบาลที่ดูแลเคสนี้โดยตรง แต่เข้าไปช่วยเช็ดตัวเปลี่ยนชุดให้ผู้ป่วย
เมื่อออกจากห้องผู้ป่วย เธอพบว่าภรรยาของผู้ก่อเหตุยังคงพาลูกเล็กเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วย เธอจึงกล่าวว่า
"คนไข้อาการไม่ดี ติดเชื้อลงปอด ขนาดคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ยังอาการหนักขนาดนี้ ถ้าลูกติดเชื้อแล้วลงปอด ลูกอาจมีอาการหนักได้ คุณพร้อมจะสูญเสียลูกไหม? ถ้าไม่อยากสูญเสียใคร ก็ช่วยพาเด็กออกไปเถอะ"
พยาบาลยอมรับว่า เธอพูดเสียงดังและจริงจัง เพราะต้องการให้ญาติของผู้ป่วยตระหนักถึงความรุนแรงของโรคและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก
ภรรยาผู้ก่อเหตุยอมรับผิด แต่ขอให้โรงพยาบาลปรับปรุงการสื่อสาร
ทางฝั่งภรรยาของชายผู้ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์เข้าร่วมรายการ และกล่าวขอโทษพยาบาลที่ถูกทำร้าย รวมถึงขอโทษโรงพยาบาลที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
เธอยอมรับว่า สามีของเธอทำผิดแน่นอน และเธอเองก็ต่อว่าสามีที่ใช้ความรุนแรง พร้อมยืนยันว่า พวกเขาจะยอมรับผลของคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เธอขอให้พิจารณาในอีกมุมหนึ่งด้วย โดยกล่าวว่า
"เราเข้าใจว่างานของพยาบาลหนักและเครียด แต่เราอยากให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์พูดกับประชาชนดีๆ เพราะญาติของผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลก็กำลังเครียดและวิตกกังวลเหมือนกัน"
เธอยังกล่าวว่า เคสนี้ควรเป็นตัวอย่างให้กับทุกฝ่าย ว่าการใช้คำพูดที่ดีและการสื่อสารที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความขัดแย้งและป้องกันเหตุการณ์รุนแรงในอนาคตได้



