ไม่พบกัมมันตภาพรังสี หลังรัสเซียโจมตี เชอร์โนบิลของยูเครน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า "โดรนของรัสเซียได้เจาะทะลุฝาปิด ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในประเทศยูเครน ส่งผลทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบไม่พบสารกัมมัตรภาพรังสีใดๆ หลุดรัวออกมา"
ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้กล่าวเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานว่า "การโจมตีและการสู้รบใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดหายนะทั่วทั้งโลกได้!!"
โดยครั้งนี้ ยูเครนได้ออกมากล่าวว่า "การกระทำที่ประมาทเลินเล่อของรัสเซีย แสดงให้เห็นว่ารัสเซีย ไม่ได้ต้องการสันติภาพ..."
ประธานาธิบดี "โวโลดิมีร์ เซเลนสกี" ผู้นำของยูเครน โพสต์ในสื่อโซเชียลว่า "โดรนโจมตีของรัสเซียซึ่งติดหัวรบระเบิดแรงสูง ได้โจมตีฝาปิดที่ป้องกันโลกจากรังสี ที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ 4 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ถูกยิงถล่มก่อนหน้านี้..." และ "ปูตินไม่ได้เตรียมการเจรจาอย่างแน่นอน แต่เขากำลังเตรียมที่จะหลอกลวงโลกต่อไป..."
หัวหน้าวิศวกรของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "โอเล็กซานเดอร์ ติตาร์ชุก" กล่าวว่า "โดรนเจาะทะลุเปลือกนอก และ เกิดการระเบิดขึ้นภายใน..." และ "หากโรงไฟฟ้าระเบิดขึ้น โลกจะพบกันหายนะครั้งใหญ่ มากกว่าที่รัสเซียคิดแน่นอน!!"
"ดมิทรี เปสคอฟ" โฆษกของประธานาธิบดี "วลาดิมีร์ ปูติน" ของรัสเซีย ได้ออกมากล่าวว่า "ทุกสิ่งที่ยูเครนกล่าวมา เป็นเรื่องโกหก และ ยูเครนล้วนจัดฉากทั้งสิ้น!!" และ "กองทัพรัสเซียที่หยิ่งผยองของเรา ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แน่นอน"
หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศ "คาจา คัลลาส" ของสหภาพยุโรป กล่าวว่า "การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่ารัสเซียไม่ต้องการสันติภาพอย่างที่พูด..."
รัฐมนตรีต่างประเทศ "ราโดสลาฟ ซิคอร์สกี้" ของโปแลนด์ กล่าวว่า "การโจมตีครั้งนี้ของรัสเซีย ทำให้โลกมีเหตุผลในช่วยยูเครนปรับปรุง ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อประโยชน์ของโลก!!"





















