เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ คร่าชีวิตผู้คนไป 20 รายในซีเรียตอนเหนือ
ประธานาธิบดี "อะห์มัด อัชชะเราะอ์" ผู้นำของซีเรีย กล่าวว่า "เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 20 ราย ในเมืองมานบิจ ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน" และ "ถือว่าเป็นเหตุนองเลือดที่สุดในประเทศ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี "บาชาร์ อัล อัสซาด" ถูกโค่นอำนาจจากอำนาจ เมื่อเดือนธันวาคม 2024"
"อะห์มัด อัชชะเราะอ์" กล่าวว่า "อาชญากรรมนี้จะไม่ผ่านไปโดย ปราศจากการลงโทษที่รุนแรงที่สุด ต่อผู้ก่ออาชญากรรม เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับผู้ที่พยายาม จะแทรกแซงความปลอดภัยของซีเรีย หรือ ทำร้ายประชาชน"
เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กล่าวว่า "ตอนนี้ยังไม่มีการออกมา กล่าวอ้างความรับผิดชอบ ต่อเหตุโจมตีในเมืองมานบิจ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนตุรกีประมาณ 30 กิโลเมตร โดยผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 รายเป็นผู้หญิง" และ "มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 รายเป็นผู้หญิง โดยเหยื่อเป็นคนงานเกษตร และ จำนวนผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น"
เมืองมานบิจเปลี่ยนมือหลายครั้ง ระหว่างสงครามกลางเมืองซีเรีย ที่ดำเนินมานาน 13 ปี ล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2024 เมื่อกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี เข้ายึดเมืองได้จากกองกำลัง SDF ที่ได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา และ นำโดยกองกำลังติดอาวุธ YPG ชาวเคิร์ด SDF ยึดเมืองมานบิจจากกลุ่มรัฐอิสลาม ได้ในปี 2016
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ในเมืองมานบิจ ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 4 ราย และ บาดเจ็บอีก 9 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กๆ
"บาชาร์ อัล อัสซาด" ถูกขับออกจากอำนาจเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2024 หลังจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง HTS โจมตีด้วยสายฟ้าแลบ โดยมีผู้นำคือ "อะห์มัด อัชชะเราะอ์" ซึ่งได้รับการประกาศ ให้เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว ของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว...
















