เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3: คลังส่งสัญญาณปรับเงื่อนไขใหม่ เปลี่ยนเป็นเงินสดได้!?
โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ที่หลายคนรอคอย อาจมีข่าวดีให้ได้เฮกัน เมื่อล่าสุดกระทรวงการคลังออกมาส่งสัญญาณถึงการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการแจกเงิน จากเดิมที่ตั้งใจให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้!
ทำไมถึงมีแนวคิดปรับเปลี่ยนเงื่อนไข?
แม้ว่ารัฐบาลจะยืนยันมาโดยตลอดว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการใช้จ่ายในประเทศ แต่ก็มีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้เงินมากขึ้น
หลายฝ่ายมองว่าการจำกัดให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี
นอกจากนี้ การเปิดโอกาสให้เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ อาจช่วยให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้คล่องตัวมากขึ้น และเข้าถึงประชาชนได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้น
เงื่อนไขใหม่จะเป็นอย่างไร?
ถึงแม้ว่ากระทรวงการคลังจะยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขใหม่ แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าอาจมีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแลกเงินสด เพื่อป้องกันการทุจริตและรักษาเจตนารมณ์ของโครงการ
เงินดิจิทัลเฟส 3 ใครมีสิทธิ์ได้รับ?
สำหรับเงื่อนไขผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในปัจจุบันยังคงเป็นไปตามเดิม คือ
- เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
- อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567)
อัปเดตความคืบหน้าล่าสุด
ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาปรับลดเงื่อนไขบางเรื่องในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เพื่อให้กลไกในการหมุนของเม็ดเงินง่ายขึ้น และเพื่อให้การเข้าถึงของประชาชนที่จะนำเม็ดเงินไปเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือเดินหน้าธุรกิจได้ง่ายขึ้น1
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการนำเสนอรายละเอียดโครงการให้คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2568
แหล่งที่มา:
- ประชาชาติธุรกิจ: https://www.prachachat.net/general/news-1750634
- ไทยโพสต์: https://www.thaipost.net/economy-news/736395/
- Infoquest: https://www.infoquest.co.th/2025/468146
หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 โปรดติดตามข่าวสารและข้อมูลอัปเดตจากทางราชการอย่างใกล้ชิด





















