เชฟกระทะฮ้างเผยเหตุผลไม่รับงานออกทีวีและอินฟูลเซอร์ที่มามือเปล่า

เซฟกระทะฮ้าง จากการทำอาหารในบ้านสู่อาณาจักรไวรัล พร้อมแง่คิดและข้อคิดจากประสบการณ์ชีวิต

ในวงการบันเทิงออนไลน์มีหลายเรื่องราวที่กลายเป็นกระแสโด่งดังแบบพลุแตก แต่น้อยคนนักที่จะสามารถก้าวข้ามจากชีวิตที่ธรรมดาไปสู่ความเป็นที่รู้จักได้อย่าง เซฟกระทะฮ้าง หรือ นายสมบุญ วรรณวงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทำให้หลายคนรู้จักผ่านคลิปการทำอาหารบ้านๆ ที่เรียบง่ายและอบอุ่น ที่ไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดผู้ชมได้จำนวนมาก แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติของผู้คนในชนบท รวมถึงการเปิดเผยวิธีการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความพยายามและความอดทน

นายสมบุญ วรรณวงศ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เซฟกระทะฮ้าง เป็นชายวัย 50 ปีที่เริ่มต้นชีวิตการทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเขาเริ่มต้นจากการทำงานในกรุงเทพฯ ด้วยการเป็นคนล้างจานและเด็กรับกระเป๋าหน้าโรงแรม เขาทำงานหนักเพื่อหวังจะหาเงินซื้อจักรยานคันใหม่ แทนคันเก่าที่จอดทิ้งไว้ที่บ้านในต่างจังหวัด

กระทั่งเมื่อเขามีอายุ 21 ปี ก็ได้เริ่มเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในห้องอาหาร และในที่สุดก็ได้มีโอกาสขึ้นมาเป็น เชฟ โดยไม่ได้เรียนเชฟจากโรงเรียนหรือสถาบันใดๆ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เขามีในการทำอาหารให้กับครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขามีความชำนาญในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะไม่ได้เรียนด้านการทำอาหารโดยตรง

ด้วยความมุ่งมั่นและความรักในการทำอาหาร เขาได้ทำงานในโรงแรมชื่อดังหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นเวลา 28 ปี ทว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงปี 2020 ทำให้หลายโรงแรมต้องปิดตัวลง ซึ่งทำให้เขาเริ่มคิดทบทวนชีวิตใหม่และตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตในบ้านเกิดที่จังหวัด นครราชสีมา เพื่อปลูกผัก เลี้ยงไก่ และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว

วันที่ 6 ตุลาคม 2563 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา เพราะในวันนั้นเองที่ นายสมบุญ วรรณวงศ์ ได้สร้าง เพจ "เซฟกระทะฮ้าง" ขึ้นมา โดยใช้ โทรศัพท์มือถือมือสอง เครื่องละ 2,000 บาท เพื่อถ่ายคลิปการทำอาหาร ซึ่งในตอนแรกๆ ยอดวิวของคลิปที่เขาทำนั้นมีเพียงแค่หลักร้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการนำเสนอเนื้อหาของคลิปให้มีความเรียบง่ายและเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น

ด้วยความที่เขานำเสนอการทำอาหารในรูปแบบที่ บ้านๆ และเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นและเหมือนได้ร่วมวงรับประทานอาหารกับครอบครัวของเขาจริงๆ โดยมีทั้ง ภรรยา และ ลูกๆ รวมถึง หลานๆ ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ในแต่ละคลิป ที่สำคัญ เขายังใช้ วัตถุดิบที่ปลูกเอง และ วัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้การทำอาหารดูมีความเป็นธรรมชาติและใกล้เคียงกับชีวิตจริงของคนในชนบท

ในที่สุด คลิปที่เขาทำเกี่ยวกับการทำ ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดไทย ก็ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น จนยอดวิวของคลิปดังกล่าวทะลุ 33 ล้านวิว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้จากผู้ชม

ในช่วงเวลาที่เขาเริ่มต้นทำคอนเทนต์นั้น เขามีความคิดที่จะนำเสนอ การทำอาหารแบบบ้านๆ ที่ไม่ต้องการความซับซ้อน เพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ และรู้สึกใกล้ชิดกับวิถีชีวิตจริงๆ ของครอบครัวเขา ซึ่งเขาเชื่อว่าความเรียบง่ายในแบบฉบับของเขานั้นทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นและได้ความสุขจากการรับชมคอนเทนต์

มุมมองที่เขานำเสนอในคลิปของเขานั้นก็เต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่ได้เน้นไปที่การสร้างความโดดเด่นจากการทำอาหารที่ฟุ่มเฟือยหรือซับซ้อน แต่เน้นไปที่การแสดงให้เห็นถึงความรักในครอบครัวและความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวที่ช่วยกันทำงาน สร้างสรรค์อาหารที่อร่อยและมีความสุขร่วมกัน

หลังจากที่เขากลายเป็นที่รู้จักในวงการออนไลน์ เซฟกระทะฮ้าง ก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ จากการที่หลายคนอยากเข้ามาร่วมงานกับเขา ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์หรือการเป็น อินฟูล ในวงการออนไลน์ ที่บางครั้งก็ดูเหมือนจะเกาะกระแสของความนิยมที่เขาสร้างขึ้น

ล่าสุด เซฟกระทะฮ้าง ได้ประกาศว่าเขาจะไม่รับงานออกทีวีหรือร่วมงานกับอินฟูลเซอร์ที่มามือเปล่า โดยเขากล่าวว่า “เงินทองของมายาข้าวปลาคือของจริง” ซึ่งหมายถึงเขาต้องการทำคอนเทนต์ที่สะท้อนตัวตนของเขาและไม่ได้ต้องการรับสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของเขา พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณคุณ พ่อสัญญาลักษณ์ ดอนศรี ที่เข้าใจและให้การสนับสนุน

การเดินทางของ เซฟกระทะอ้าง เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ชีวิตที่แท้จริง การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และการรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเองตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาจากสถาบันใหญ่ๆ หรือการเรียนการสอนในห้องเรียน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้จากการทำในสิ่งที่เรารักและถนัด

เขายังฝากข้อความถึงผู้ที่อยากจะเป็น ครีเอเตอร์ หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำคอนเทนต์ในโลกออนไลน์ว่า “ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด เน้นการนำเสนอที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการดึงดูดผู้ชมให้สนใจมากขึ้น