ปู มัณฑนา ให้ดำเนินคดี กับ ทนายแก้ว , หนุ่มกรรชัย และ บริษัท ดีคืนดีวัน
สำหรับวันนี้มาติดตามเรื่องราวของเพจ Facebook ชื่อดังอย่างเพจอรรถรสที่ได้มีการออกมาโพสต์รูปภาพซึ่งภาพดังกล่าวนั้นจะเป็นภาพที่ปรากฏให้เห็นคุณปูมัณฑนาทนายธรรมราชทนายแก้วและหนุ่มกรรชัยกำเนิดพลอย ทั้งนี้ได้มีการระบุข้อความแคปชั่นเอาไว้ดังนี้
เอาแล้ววววว คุณปู มัณฑนา ให้ดำเนินคดี กับ ทนายแก้ว , หนุ่มกรรชัย และ บริษัท ดีคืนดีวัน เอาจริงดิ
โดยในรายละเอียดคราวๆ ที่คุณปู โพสต์แจ้งไว้ว่านางมัณฑนา หิมะทองคำ ผู้เสียหาย ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อสถานีตำรวจ ให้ดำเนินคดี 1.ทนายแก้ว 2.หนุ่มกรรชัย 3. บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดและกับพวกในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาเนื่องมาจาก ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ใส่ความผู้เสียหาย ในขณะออกรายการโหนกระแสของผู้ต้องหาที่ 3 ที่ได้เผยแพร่ไปสู่สาธารณะชน
และบุคคลที่ 3 รับฟังแล้วเป็นที่เข้าใจว่าในการว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความของผู้เสียหาย ผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไปโบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้
ซึ่งเป็นความเท็จทำให้ผู้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 พูดส่งเสริมสนับสนุนและผู้ต้องหาที่ 3 และทางช่อง 3 ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ออกอากาศไปสู่สาธารณะชน โดยไม่ได้ตรวจสอบกลั่นกรองข้อเท็จจริงผู้เสียหาย ได้รับความเสียหาย แก่ชื่อเสียงอย่างมาก
เพราะผู้เสียหายเคยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงเคยได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน และรองนางสาวไทย อันดับ 2 จัดการประกวดโดยช่อง7 สี ได้มีโอกาสไปเดินแบบชุดไทยจักรีหน้าพระพักตร์ในหลวง พระราชีนี มีผลงานเป็นนางเอกละครหลังข่าวทางช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง และสามีเป็นถึงอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตสมาชิกสภา
ส่วนเนื้อหารายละเอียดการโพสต์ฉบับเต็ม ทางปูมัณฑนาได้โพสต์ไว้ดังนี้
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 14:30 น. นางมัณฑนา หิมะทองคำ ผู้เสียหาย ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อและแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท. เปรม ชำนาญดู รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ / พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี แก่
1.นาย มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
หรือ ทนายแก้ว (ผู้ต้องหาที่ 1)
2.นาย ภูดิท กำเนิดพลอย
หรือ หนุ่มกรรชัยพิธีกรชื่อดัง
(ผู้ต้องหาที่ 2 )
3. บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 3 ) และกับพวกในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
เนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ใส่ความผู้เสียหาย ในขณะออกรายการโหนกระแสของผู้ต้องหาที่ 3 ที่ได้เผยแพร่ไปสู่สาธารณะชน และบุคคลที่ 3 รับฟังแล้วเป็นที่เข้าใจ ว่า ในการว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความของผู้เสียหาย ผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไปโบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเป็นความเท็จ ( ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ไปตกลงว่าจ้างจำนวนหลายคนและผู้รู้ด้านกฎหมายจำนวนมากให้ความเห็นตรงกันว่าใครจะกล้าไปว่าจ้างให้ทนายความที่มีชื่อเสียงให้ไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ )
ในประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 พูดส่งเสริมสนับสนุนและผู้ต้องหาที่ 3 และทางช่อง 3 ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ออกอากาศไปสู่สาธารณะชนโดยไม่ได้ตรวจสอบกลั่นกรองข้อเท็จจริงให้ถูกต้องก่อน ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกสังคมเข้าใจผิด ดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง
ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงอย่างมากเพราะผู้เสียหายเคยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงเคยได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองนางสาวไทย อันดับ2 จัดการประกวดโดยช่อง7สีร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังจากได้รับตำแหน่ง ได้มีโอกาสไปเดินแบบชุดไทยจักรีหน้าพระพักตร์ในหลวง พระราชีนี ในรัชกาลที่9 ซึ่งเป็นมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากนั้นมีผลงานเป็นนางเอกละครหลังข่าวทางสถานีย์โทรทัศน์สีองทัพบกช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง
และสามีเป็นถึงอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง อดีตพิธีกร และอดีตนักแสดงสังกัดดาราวิดีโอทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ผู้เสียหายขอความเป็นธรรมต่อไปว่าเหตุในการเลิกสัญญาว่าจ้างทนายความต่อกันนั้น ไม่ใช่ผู้เสียหาย ให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไป โบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นเพราะผู้ต้องหาที่ 1 ได้ทำหนังสือขอเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและอาจจะถือได้ว่าเป็นเอกสารเท็จ เพื่อจะนำไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน
และผู้เสียหายเห็นว่าหนังสือดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้เสียหายมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือ อาจจะถูกออกหมายจับเพราะเหตุในการเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 นั้นไม่ตรงต่อความเป็นจริง และความเป็นจริงผู้เสียหายมีอาการเครียดจนป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะถูกออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ป่วยที่ต่างจังหวัด
ซึ่งเป็นความเท็จ ตามที่ผู้ต้องหาที่ 1ได้จัดทำหนังสือให้ และเหตุในการเลิกสัญญาต่อกันอีกประการหนึ่งคือผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหนังสือขอเลื่อนคดี ดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวนในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจ แต่จะให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อ ผู้เสียหายก็ไม่กล้าลงลายมือชื่อเพราะว่าหนังสือดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นความเท็จ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ผู้เสียหายเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผู้เสียหายได้ว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความ เป็นเงินประมาณ 150,000 บาท
ผู้ต้องหาที่ 1 ก็ต้องควรที่จะปกป้องผู้เสียหายตามกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุให้เลิกสัญญาต่อกันโดยสมัครใจ
ส่วนเหตุที่ผู้เสียหายต้องขอความเป็นธรรมต่อสังคมโดยการโพสต์ข้อความลงสื่อสาธารณะเพราะว่าส่วนหนึ่งผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาที่ 1 หักเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นค่าทำหนังสือที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง
ดังกล่าว แต่เสียหายไม่ได้ต้องการที่จะขอเงินจำนวน 50,000 บาท ดังกล่าวนี้คืน เพียงแต่ต้องการเตือนสังคมและเตือนประชาชนว่าเวลาว่าจ้างทนายความนั้นควรที่จะต้องตกลงกันให้ชัดเจนในข้อตกลงต่างๆและต้องทำเป็นหนังสือสัญญา มิฉะนั้นแล้ว ก็อาจจะได้รับความเสียหายอย่างเช่นผู้เสียหาย
ส่วนเรื่องที่มีการพูดยอมรับกันในขณะออกสื่อว่ามีการหักให้ค่านายหน้านั้น ผู้เสียหายมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผิดมารยาททนายความ ข้อไหน หรือไม่อย่างไร ในส่วนนี้ผู้เสียหายไม่ทราบ เพราะเป็นส่วนของสภาทนายความที่จะต้องตรวจสอบและดำเนินการไปตามกฎหมาย
ล่าสุดปู มัณฑนา เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อเพื่อแจ้งความ ทนายแก้ว, หนุ่ม กรรชัย และบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
“ปู มัณฑนา” อ้างว่าเธอได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก เพราะในอดีตประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง แถมยังได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองนางสาวไทย อันดับ2
นอกจากนั้นยังได้รับโอกาสให้ไปเดินแบบชุดไทยจักรีหน้าพระพักตร์ในหลวง พระราชีนีในรัชกาลที่ 9 และเป็นนางเอกละครหลังข่าวทางสถานีโทรทัศน์สีองทัพบกช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง
มีสามีเป็นนักแสดงชื่อดังทางช่อง 7 และเป็นอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง





















