ไม่เป็นนักร้องก็รอด! ส่องธุรกิจ “แสตมป์” รายได้ทะลุ214 ล้าน!
ดราม่าสะเทือนวงการ! "แสตมป์ อภิวัชร์" กับปมรักซ้อนและผลกระทบต่อเส้นทางอาชีพ พร้อมเปิดรายได้ธุรกิจ 10 ปี ทะลุ 214 ล้านบาท
กลายเป็นกระแสร้อนแรงที่สะเทือนวงการบันเทิงไทยอย่างหนัก สำหรับกรณีดราม่าของนักร้องหนุ่มชื่อดัง "แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข" กับประเด็นดราม่าชู้สาวที่เริ่มต้นจากการเข้าใจว่าเป็นกรณีแฟนคลับล้ำเส้น (ซาแซง) แต่สุดท้ายกลับพลิกผันกลายเป็นเรื่องของความสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยเรื่องดังกล่าวถูกนำไปเปิดเผยและคลี่คลายผ่านรายการดัง "โหนกระแส" ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะดูเหมือนจบลงแล้ว แต่กระแสในสังคมยังคงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนอกใจภรรยาของเขา
หลังจากกรณีดังกล่าวถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ การทำงานในฐานะศิลปินของแสตมป์ต้องหยุดชะงักทันที งานเดินสายต่าง ๆ ถูกยกเลิกทั้งหมด เนื่องจากกระแสสังคมที่ผิดหวังในพฤติกรรมของเขา จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เส้นทางในฐานะนักร้องของแสตมป์จะสามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลกระทบจากดราม่าดังกล่าวจะส่งผลต่ออาชีพนักร้อง แต่แสตมป์ยังมีอีกหนึ่งช่องทางรายได้ที่มั่นคง นั่นคือการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากว่า 10 ปี และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจเบื้องหลังความสำเร็จรายได้รวมกว่า 214 ล้านบาท
แสตมป์ไม่ได้เป็นเพียงนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล เขาเป็นเจ้าของค่ายเพลง 123Records (หนึ่ง สอง ซั่ม เรคคอร์ดส์) และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านลิขสิทธิ์เพลงในชื่อ บริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลง ผลิตดนตรีประกอบสื่อโฆษณา ให้คำปรึกษาด้านการแสดงและการร้องเพลง รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรรมการผู้บริหาร 2 คน ได้แก่ นิว จีริสุดา ศรีวัฒน์ ภรรยาของแสตมป์ และแสตมป์ อภิวัชร์เอง
จากข้อมูลที่ได้ตรวจสอบผ่านฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทนี้มีผลประกอบการที่น่าทึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้รวมกว่า 214,081,478 บาท และมีกำไรสุทธิรวม 92,131,446 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในเชิงธุรกิจของเขา
รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทในช่วงปี 2557-2566
จากข้อมูลผลประกอบการของบริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด มีรายละเอียดรายได้และกำไรสุทธิในแต่ละปีดังนี้
ปี 2557: รายได้รวม 15,599,391 บาท / กำไรสุทธิ 10,060,622 บาท
ปี 2558: รายได้รวม 24,868,160 บาท / กำไรสุทธิ 16,435,521 บาท
ปี 2559: รายได้รวม 22,345,587 บาท / กำไรสุทธิ 14,684,838 บาท
ปี 2560: รายได้รวม 24,962,746 บาท / กำไรสุทธิ 10,980,454 บาท
ปี 2561: รายได้รวม 25,776,423 บาท / กำไรสุทธิ 8,978,021 บาท
ปี 2562: รายได้รวม 27,347,689 บาท / กำไรสุทธิ 9,882,905 บาท
ปี 2563: รายได้รวม 21,940,521 บาท / กำไรสุทธิ 7,628,159 บาท
ปี 2564: รายได้รวม 8,166,988 บาท / ขาดทุนสุทธิ -1,656,390 บาท
ปี 2565: รายได้รวม 20,751,311 บาท / กำไรสุทธิ 6,870,097 บาท
ปี 2566: รายได้รวม 22,322,662 บาท / กำไรสุทธิ 8,267,219 บาท
ถึงแม้ว่าบริษัทจะประสบปัญหาขาดทุนในปี 2564 แต่ในปีถัดมาก็สามารถพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ชื่อเสียงของแสตมป์ต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์จากแฟนเพลงที่รู้สึกผิดหวังอย่างหนัก หลายคนตั้งคำถามว่าอนาคตในฐานะศิลปินของเขาจะกลับมาเป็นที่ยอมรับได้อีกหรือไม่ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ธุรกิจของแสตมป์ยังคงเป็นรากฐานที่มั่นคง แม้ว่ากระแสในปัจจุบันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเขา