เที่ยวไทยไม่ปลื้ม! แม่ค้าตลาดน้ำรูดเงินนักท่องเที่ยว 80,000 บาท
นักท่องเที่ยวชาวบรูไนช้ำใจ! เจอแม่ค้าตลาดน้ำรูดบัตรเดบิตเกินกว่า 80,000 บาท เตือนภัยนักเดินทาง พร้อมข้อแนะนำป้องกันกลโกง
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 คลิปวิดีโอหนึ่งได้กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เมื่อ นักท่องเที่ยวชาวบรูไน ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดช้ำในประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประเทศไทย โดยเผยว่าเขาโดนแม่ค้าตลาดน้ำแห่งหนึ่งโกงเงินจากการรูดบัตรเดบิตเกินไปกว่า 80,000 บาท ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการจ่ายค่าบริการแพ็คเกจทัวร์ภายในตลาดน้ำ
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวรายนี้เท่านั้น แต่ยังทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยเสียหายในสายตาชาวต่างชาติ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
นักท่องเที่ยวชาวบรูไนรายนี้ได้โพสต์วิดีโอเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 โดยเขาตัดสินใจไปเที่ยวตลาดน้ำแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งมีแพ็คเกจทัวร์ราคา 160 ดอลลาร์บรูไน (ประมาณ 4,000 บาท) ต่อคน แพ็คเกจดังกล่าวรวมกิจกรรมหลากหลาย เช่น การนั่งเรือส่วนตัว, ขี่ช้าง และถ่ายรูปกับเสือ
เมื่อถึงเวลาชำระเงิน เขายื่นบัตรเดบิตให้แม่ค้ารูดจ่ายตามจำนวนเงินที่ตกลงไว้ แต่เมื่อสังเกตตัวเลขในสลิปใบเสร็จ เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขาถูกเรียกเก็บเงินไปถึง 83,460 บาท แทนที่จะเป็น 8,346 บาท
นักท่องเที่ยวได้พยายามโต้เถียงกับแม่ค้า และยื่นสลิปใบเสร็จเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ในที่สุดแม่ค้าจึงยอมรับและตกลงที่จะคืนเงินให้เขา แต่กระบวนการคืนเงินผ่านธนาคารใช้เวลานานถึง 14 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกรณีที่หากเขามีเพียงบัตรใบเดียว อาจทำให้การท่องเที่ยวของเขาลำบากยิ่งขึ้น
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตทั้งไทยและต่างชาติได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม หลายคนรู้สึกไม่พอใจและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เพราะการกระทำลักษณะนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชื่อเสียงของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
ความคิดเห็นของชาวเน็ตไทยส่วนใหญ่ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิ เช่น
“อย่าโกงกันแบบนี้เลย มันทำให้ประเทศเสียชื่อเสียง”
“น่าเกลียดมาก ฟันนักท่องเที่ยวแบบนี้ไม่น่าให้อภัย”
“เรื่องแบบนี้กระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยตรง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาจัดการทันที”
เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวบรูไนรายนี้ได้ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนและคำแนะนำเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อกลโกงในลักษณะเดียวกัน ดังนี้
1. ตรวจสอบราคาก่อนการจ่ายเงิน
ควรตรวจสอบราคาสินค้าหรือบริการให้ละเอียดก่อนชำระเงิน โดยเฉพาะเมื่อใช้บัตรเดบิตหรือเครดิต
2. เช็กสลิปใบเสร็จทุกครั้ง
หลังจากรูดบัตร ควรตรวจสอบสลิปใบเสร็จทันทีว่าตรงกับจำนวนเงินที่ตกลงไว้
3. พกเงินสดสำรอง
การมีเงินสดสำรองติดตัวจะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้บัตรเพียงใบเดียว และช่วยในกรณีฉุกเฉิน
4. มีบัตรเครดิต/เดบิตสำรอง
การพกบัตรสำรองจะช่วยให้สามารถใช้จ่ายได้ต่อไปหากเกิดปัญหากับบัตรหลัก
5. จองแพ็คเกจผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ
การเลือกจองแพ็คเกจทัวร์ผ่านเว็บไซต์หรือเอเจนซี่ที่ได้รับการรับรอง จะช่วยลดโอกาสเจอปัญหาการโกง
6. แจ้งธนาคารทันทีหากเกิดเหตุผิดปกติ
หากพบการเรียกเก็บเงินที่ผิดปกติ ควรติดต่อธนาคารทันทีเพื่อระงับการทำธุรกรรม
ชาวเน็ตไทยหลายคนได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยว เข้ามาจัดการและตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย
เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้บริการอย่างซื่อสัตย์และโปร่งใส โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศไทย
















