อุบัติเหตุสลด ครอบครัวกลับจากเที่ยวต่างจังหวัด ชนท้ายรถพ่วง ทำดับ 3 ราย บาดเจ็บ 2 ราย
เป็นการรายงานโดยสำนักข่าวไทยในวันนี้ (19 มกราคม 2568) ว่าเกิดเหตุบนถนนสายขาณุวรลักษบุรี (ป่าพุทรา) - บึงสามัคคี (ทุ่งสนุ่น) พบรถกระบะสีเทา ชนท้ายพ่วง รถบรรทุก 18 ล้อสภาพรถกระบะพังเสียหายทั้งคัน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.นายเสริมฤทธิ์ อายุ 31 ปี คนขับ บาดเจ็บที่แขน 2.น.ส.อักษรสวรรค์ อายุ 29 ปี ภรรยา (นั่งข้างคนขับ) เสียชีวิต 3. ด.ญ.นันริณี อายุ 1 ปี 8 เดือน (นั่งตักแม่) เสียชีวิต 4.ด.ญ.นันท์นภัส อายุ 7 ปี (นั่งหลังคนขับ) บาดเจ็บที่แขนและขาเล็กน้อย 5.ด.ช.ธนกฤต อายุ 9 ปี หลานชาย (นั่งด้านหลัง น.ส.อักษรสวรรค์) เสียชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำตัว ด.ญ.นันท์นภัส ที่บาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี ส่วนนายเสริมฤทธิ์ นั่งร้องไห้กอดศพลูกสาววัย 1 ขวบ 8 เดือน อยู่จุดเกิดเหตุ ขณะที่ร่างของ ด.ช.ธนกฤต อายุ 9 ปี หลานชาย กระเด็นออกมานอกตัวรถกระบะ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถกระบะนานกว่า 30 นาที เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา 3 ศพ เพื่อให้แพทย์เวรโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี ได้ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้น ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพทั้ง 3 ไปโรงพยาบาลฯ เพื่อให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศล ขณะที่ ญาติเดินทางมายังจุดเกิดเหตุต่างร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์สลดครั้งนี้ และให้ข้อมูลว่าทั้งหมดได้เดินทางไปเที่ยวที่บึงสีไฟ ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อวาน (18 ม.ค.) และขากลับอีกเพียง 5 กิโลเมตรก็จะถึงบ้านในพื้นที่ ต.ยางสูง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร แต่มาเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าวก่อน ขณะที่ นายสมศักดิ์ อายุ 50 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกอ้อย เล่าว่า “ตนจอดรถบรรทุกพ่วงเปิดไฟผ่าหมากเพื่อพักรถและเคาะยางรถ ไม่ถึง 5 นาที กำลังจะขึ้นรถและขับออกไป สักพักได้ยินเสียงโครมอย่างดัง จึงเดินมาดู ก็พบว่ารถกระบะได้ชนท้ายรถของตนแล้ว โดยจุดดังกล่าวตนก็จอดประจำ และคันอื่นๆ ก็มาจอดจุดนี้ประจำ ซึ่งก็กำลังจะนำอ้อยไปเข้าโรงงานที่ จ.นครสวรรค์ คาดว่ารถกระบะน่าจะไม่เห็นท้ายรถตนจึงเข้ามาชนอย่างจัง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนศพทั้ง 3 ร่างมาเก็บไว้รอญาติ ได้พบกับด.ญ.นันท์นภัส ได้เข้าไปโผกอดนายเสริมฤทธิ์ ผู้เป็นพ่อ และมีอาการซึมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งญาติที่มารอรับศพต่างก็พากันเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถพ่วงบรรทุกอ้อยไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด พร้อมสอบปากคำ โดยเตรียมรวบรวมหลักฐานอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีต่อไป