TikTok ในอเมริการะบุว่าจะปิดตัวลงในวันอาทิตย์นี้
TikTok เตรียมปิดการให้บริการในสหรัฐฯ วันอาทิตย์นี้ หากรัฐบาลไบเดนไม่เร่งแทรกแซงทันที
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา TikTok ประกาศว่าจะยุติการให้บริการแก่ผู้ใช้งานชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนในวันอาทิตย์นี้ หากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อรับประกันว่าบริษัทจะไม่ถูกลงโทษเนื่องจากละเมิดข้อกำหนดของคำสั่งแบนที่กำลังจะมีผล
กฎหมายสองฝ่ายที่ประธานาธิบดีไบเดนลงนามในเดือนเมษายน ระบุให้ TikTok ต้องขายกิจการให้กับผู้ซื้อชาวอเมริกันภายในวันอาทิตย์นี้ มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ขณะที่ศาลฎีกาได้อนุญาตให้คำสั่งแบนดังกล่าวยังคงมีผล
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวระบุว่าการบังคับใช้คำสั่งแบนดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ และย้ำว่ารัฐบาลปัจจุบันได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว
ถึงแม้ว่าทำเนียบขาวจะไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการดำเนินการเพิ่มเติมก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันอาทิตย์ แต่ TikTok ยังคงแสดงความกังวล โดยระบุว่า คำแถลงของทำเนียบขาวและกระทรวงยุติธรรมยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ให้บริการ เช่น Google และ Apple ที่ยังคงโฮสต์ TikTok
“คำแถลงในวันนี้ไม่สามารถให้ความชัดเจนหรือการรับประกันที่จำเป็นแก่ผู้ให้บริการที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ TikTok ยังคงใช้งานได้สำหรับชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคน”
TikTok ระบุในแถลงการณ์
“หากรัฐบาลไบเดนไม่ออกคำแถลงที่ชัดเจนทันที TikTok จะถูกบังคับให้ปิดตัวลงในวันที่ 19 มกราคม”
ในขณะที่ TikTok แสดงความกังวลเกี่ยวกับบทลงโทษที่อาจเกิดขึ้น บริษัทกล่าวว่า ยังคงพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาการให้บริการในสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้ตัดสินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาให้คำสั่งแบนยังคงมีผล โดยชี้ว่ากฎหมายนี้มุ่งเน้นในประเด็นด้านความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ และระบุว่า TikTok มีความเสี่ยงเนื่องจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่กว้างขวางและความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเกี่ยวกับ TikTok และหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับอนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากบริษัทแม่ของ TikTok ยังไม่ได้ประกาศความคืบหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการขายกิจการ ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วนเริ่มแนะนำว่า TikTok อาจต้องการเวลาเพิ่มเติมในการหาผู้ซื้อที่เหมาะสม