จากการเปิดเผยพบทั้ง ขนนกและคราบเลือด ในเครื่องยนต์ของเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การสอบสวนโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของเกาหลีใต้ กรณี “เที่ยวบิน 2216” ของ สายการบินเชจูแอร์ ที่ประสบเหตุลื่นไถลรันเวย์ก่อนพุ่งชนรั้วกั้นจนระเบิดรุนแรง คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวม 179 รายจากทั้งหมด 181 ราย เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2567 ว่าพบขนนกและคราบเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง รายงานระบุว่าก่อนพุ่งชนแนวกำแพงปลายรันเวย์เพียง 4 นาที หนึ่งในนักบินแจ้งว่านกตัวหนึ่งพุ่งชน จึงส่งสัญญาณฉุกเฉิน จากนั้นบินวนเพื่อนำเครื่องลงอีกด้านของรันเวย์กระทั่งเกิดเหตุสลด โดยก่อนหน้านั้นหอควบคุมการบินแจ้งเตือนกัปตันให้ระวังฝูงนกบริเวณที่จะร่อนลงจอด ฝ่ายเจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่าพบขนนกในเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่เก็บกู้มาได้จากจุดเกิดเหตุและคลิปวิดีโอก็แสดงให้เห็นว่ามีนกตัวหนึ่งบินชนเครื่องยนต์เครื่องหนึ่ง แต่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีพบขนนกและเลือดในเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่อง ส่วนอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินและบันทึกเสียงในห้องนักบิน (กล่องดำ) ที่เก็บกู้มาได้นั้นหยุดบันทึกข้อมูลก่อนเกิดเหตุ 4 นาทีซึ่งเป็นความท้าท้ายอย่างยิ่งสำหรับการสืบสวนสอบสวน นายซิม ไจดง อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าน่าประหลาดใจมากที่ข้อมูลหายไปและสันนิษฐานว่าพลังงานทั้งหมด รวมทั้งพลังงานสำรองอาจถูกปิดซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แม้การที่นกบินชนเครื่องบินทั้งสองเครื่องยนต์จะเกิดขึ้นได้ยากมากกับเครื่องบินทั่วโลก แต่ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วและนักบินนำเครื่องลงจอดได้สำเร็จโดยไม่มีผู้เสียชีวิต รวมทั้งเหตุปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสันของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2552 และการนำเครื่องบินลงจอดกลางทุ่งข้าวโพดในรัสเซียเมื่อปี 2562