จากคลิปสิงโตน่ารัก ทำท่าจะกลายเป็นงานเข้า หลังจากกรมอุทยานฯเตือน เคลื่อนย้ายสิงโต ไร้ใบอนุญาตมีโทษปรับ-จำคุก

    เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่ โซเชียล ได้มีการแชร์รูปชายคนหนึ่ง ถ่ายภาพตัวเองที่กำลังขับรถ พร้อมกับลูกสิงโต 1 ตัว โดย มีการระบุว่า ช่วงนี้รับจ็อบขับรถส่งของผ่านแอปหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้คนเรียกรถเป็นลูกค้าเจ้าประจำ ที่เคยใช้บริการให้รับส่งสัตว์ Exotic (สัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ สัตว์แปลกต่างถิ่น หรือสัตว์ประหลาด ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติมาก่อนทั้งในและต่างประเทศ แล้วมนุษย์นำมาเลี้ยง) ที่ผ่านมาก็จะมี คาปิบารา มาร์มอต แต่ครั้งนี้ให้ไปรับลูกสิงโต โดยชายคนดังกล่าว ได้ถ่ายภาพตัวเองกับสิงโต ในอิริยาบทต่างๆ ขณะที่กำลังขับรถ ซึ่งมีการแชร์ โพสต์ดังกล่าวนี้กันจำนวนมาก โดยคนที่เข้ามาชมพากันระบุว่า ลูกสิงโตน่ารัก เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวกับทาง มติชนออนไลน์ ว่า ลูกสัตว์ทุกกชนิดน่ารักเหมือนกันเกือบทั้งหมด แต่สิ่งที่ชายคนดังกล่าวทำนั้น เป็นเรื่องที่ผิด โดยเฉพาะผิดเรื่องของการเคลื่อนย้ายสัตว์ เพื่อให้ปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ ต้องมีกรงที่มิดชิด หากจะประสงค์เคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อไปการแสดงหรือการโอนไปให้บุคคลอื่นจะต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ สำหรับกรณีนี้ถ้าหากเป็นการโอนสิงโตจากบุคคลหนึ่งไปให้อีกบุคคลหนึ่ง ก็ต้องขออนุญาตจากสำนักงาน อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส เสียก่อน ไม่ใช่ว่า นึกจะขนย้ายก็ย้ายได้เลย นายอรรถพล กล่าวว่า หากจะประสงค์เคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อไปการแสดงหรือการโอนไปให้บุคคลอื่นจะต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ สำหรับกรณีนี้ถ้าหากเป็นการโอนสิงโตไปให้อีกบุคคลหนึ่งสามารถใช้หลักฐานการขออนุญาตโอนเป็นการขออนุญาตขนย้ายได้ การขนย้ายจะต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์และความปลอดภัย เคสดังกล่าวผิดระเบียบมาตรา 19 วรรค 2 ผิดระเบียบอุทยานแห่งชาติ ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้งและการครอบครองซึ่งสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม พ.ศ 2565 ผิดระเบียบข้อ 18 (7) และ หากพบว่าสิงโตไม่ได้มีการแจ้งครอบครองก็จะผิด พ.ร.บ สงวนและคุ้มครองฯ 2562 มาตรา 19 วรรค1 มาตรา 90 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เคสนี้ ตรวจสอบแล้ว พบว่า อยู่ในพื้นที่กรุงเทพ กำลังให้เจ้าหน้าที่หารายละเอียดอยู่ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าว