หนุ่มโปแลนด์ถูกจับ! หลังตีกันสาวในร้านสะดวกซื้อ อ้างไม่รู้ว่าเป็นเรื่องผิดเพราะทำบ่อยตอนไปเที่ยว
ตำรวจจับกุมชาวต่างชาติวัย 31 ปี ในคอนโดย่านสาทร หลังถูกกล่าวหากระทำอนาจารหญิงสาวในร้านสะดวกซื้อ
วันที่ 14 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ นำโดย พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์ สว.กลุ่มงานสอบสวนฯ ช่วยราชการ กก.4ฯ ได้จับกุมตัวชายชาวต่างชาติสัญชาติโปแลนด์ นายปิโอเตอร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล”
การจับกุมเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าห้องพักชั้น 36 ของคอนโดแห่งหนึ่งริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร เมื่อผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาว กำลังเลือกซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ จู่ ๆ นายปิโอเตอร์เดินเข้ามา “ตีกัน” เธออย่างแรง ผู้เสียหายตกใจและหันมองเพราะคิดว่าอาจเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้ง แต่กลับพบว่าเป็นชายชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายรู้สึกอับอาย เพราะมีลูกค้าคนอื่น ๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนมองเหตุการณ์ เธอจึงรีบออกจากร้านด้วยความรู้สึกถูกเหยียดหยาม ก่อนตัดสินใจปรึกษาคนรู้จักและไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
เธอระบุว่าเธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำขอโทษจากผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียกและไม่ได้สำนึกถึงการกระทำ โดยให้เหตุผลกับเอเจนต์ที่ดูแลห้องพักว่า
“ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นมีใครว่าอะไร”
คำพูดดังกล่าวยิ่งสร้างความรู้สึกไม่พอใจให้กับผู้เสียหายและตัดสินใจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ยื่นขอหมายจับจากศาลและประสานกับตำรวจสืบสวนนครบาลเพื่อช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวได้ที่คอนโดของผู้ต้องหาย่านสาทร โดยได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับและแจ้งสิทธิ์ผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษ
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาไม่ให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่ตำรวจแสดงให้ดูเป็นตนเอง และยอมรับว่าการตีลักษณะดังกล่าวเคยทำมาแล้วหลายครั้งในสถานบันเทิง
จากคำให้การและพฤติกรรมของผู้ต้องหา สะท้อนให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจในกฎหมายไทย และไม่คำนึงถึงความเสียหายทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย ผู้ต้องหามองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยและคิดว่ากฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย การกระทำแค่นี้ไม่ถือว่าเป็นอาชญากรรม และอีกไม่นานผมจะเดินทางกลับประเทศ”
คำพูดดังกล่าวทำให้พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ ตัดสินใจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ตำรวจได้ควบคุมตัวนายปิโอเตอร์ ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คดีนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความเคารพผู้อื่นและการปฏิบัติตามกฎหมายในต่างประเทศ
อ้างอิงจาก: FB:สืบนครบาล