ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าลอสแอนเจลิสเพิ่มเป็น 13 ราย พื้นที่ถูกไฟเผาผลาญไปแล้วกว่าแสนไร่
เจ้าหน้าที่เขตลอสแอนเจลิสเคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตจากไฟป่าอีตัน (Eaton Fire) เพิ่มอีก 2 คน ทำให้ไฟป่าในส่วนนี้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และยังพบผู้เสียชีวิตจากไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) อีก 5 คน ทำให้ตัวเลขรวมผู้เสียชีวิตเหตุไฟป่าลอสแอนเจลิสทั้งหมดเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 13 คนแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายแล้ว 13 คน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุไฟป่าหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าสถานการณ์จะยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุด เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงควบคุมไฟป่าใกล้เมืองลอสแอนเจลิสได้อีก 2 จุดคือ ไฟป่าอาร์เชอร์ (Archer Fire) กับไฟป่าลิเดีย (Lidia Fire) หลังจากก่อนหน้านี้ควบคุมไฟป่าขนาดเล็กไปได้แล้ว 3 จุด ประกอบด้วย ไฟป่าซันเซ็ต (Sunset Fire), ไฟป่าวูดลีย์ (Woodley Fire) และไฟป่าโอลิวาส (Olivas Fire) โดยเวลานี้เหลือไฟป่าที่ยังควบคุมไม่ได้ใกล้ลอสแอนเจลิสทั้งสิ้น 4 จุด คือไฟป่าพาลิเซดส์ด ซึ่งเป็นไฟป่าแห่งแรกที่ลุกไหม้และมีขนาดใหญ่ที่สุด เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้เพียง 11% ปัจจุบันเผาผลาญพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 22,000 เอเคอร์ หรือ 55,000 ไร่ รวมถึงย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ จุดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 คือไฟป่าอีตัน ทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิส โดยมีเนื้อที่เกือบ 14,000 เอเคอร์ หรือ 36,000 ไร่ ถูกทำลาย เจ้าหน้าที่ควบคุมเปลวเพลิงได้ 15% ส่วนไฟป่าเฮิร์สต์ (Hurst Fire) ทางเหนือของเมืองซานเฟอร์นันโด เผาผลาญพื้นที่ไปเกือบ 800 เอเคอร์ หรือ 2,000 ไร่ ปัจจุบันควบคุมได้ 76% จุดสุดท้ายคือไฟป่าเคนเน็ธ (Kenneth Fire) บริเวณรอยต่อระหว่างลอสแอนเจลิสเคาน์ตีกับเวนทูราเคาน์ตี เผาผลาญพื้นที่แล้ว 1,050 เอเคอร์ หรือประมาณ 2,600 ไร่ แต่เปลวเพลิงถูกควบคุมได้เกิน 80% และ หยุดลุกลามแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เจ้าหน้าที่ต้องออกคำสั่งอพยพเพิ่มเติมในหลายจุด รวมถึงบางส่วนของเมืองเบรนต์วูด เนื่องจากไฟป่าพาลิเซดส์ลุกลามไปทางตะวันออกมากขึ้น ขณะที่ชุมชนย่านเอ็นซีโน และแมนเดวิลล์ แคนยอน ก็ตกอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน โดยจนถึงขณะนี้ ไฟป่าพาลิเซดส์ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว 5,300 หลัง ส่วนไฟป่าอีตันทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้วมากกว่า 7,000 หลัง ทำให้มีประชาชนต้องอพยพแล้วประมาณ 153,000 คน