ดีเจอาร์ตโพสต์เตือน! แก๊งคอลฯหัวใสใช้เสียง AI หลอกแม่หวังเงิน 6 หมื่น

อุทาหรณ์จากดีเจอาร์ต มารุต หลังคุณแม่เจอมิจฉาชีพอ้างเรื่องลูกชายถูกจับยาเสพติด

วันที่ 11 มกราคม 2568 ดีเจชื่อดัง อาร์ต มารุต ชื่นชมบูรณ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ดีเจอาร์ต" ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "อาร์ต เอง" เพื่อเตือนภัยสังคม หลังคุณแม่ของเขาเกือบตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่โทรมาในช่วงยามวิกาล โดยอ้างว่า ดีเจอาร์ตและโอ๊ต ถูกตำรวจจับในคดียาเสพติด พร้อมเรียกเงินจำนวน 60,000 บาทเพื่อปิดเรื่อง

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาประมาณตี 2 เมื่อคุณแม่ของดีเจอาร์ตได้รับสายโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก ปลายสายอ้างตัวว่าเป็นดีเจอาร์ต โดยใช้เสียงเลียนแบบที่ใกล้เคียงกับเจ้าตัวมาก พร้อมบอกข่าวร้ายว่า "แม่ อาร์ตกับโอ๊ตโดนตำรวจจับคดียาเสพติด"

คุณแม่ของดีเจอาร์ตเริ่มตกใจ แต่ยังพยายามตั้งสติ ในระหว่างที่ผู้โทรอ้างว่าเป็นตำรวจ ดึงสายโทรศัพท์ไปพูดต่อ โดยข่มขู่ว่า:

“จะจบตรงนี้ หรือจบที่โรงพัก ถ้าจะจบตรงนี้ ขอเงิน 60,000 บาท”

เมื่อคุณแม่ยังไม่ได้ตอบตกลง ปลายสายลดเงินลงทันทีโดยบอกว่า:

“ไม่มีใช่ไหม งั้น 30,000 บาทก็ได้ แต่ต้องโอนเดี๋ยวนี้”

แม้สถานการณ์จะน่ากลัว แต่คุณแม่ของดีเจอาร์ตก็เริ่มเอะใจในคำพูดของผู้โทร ด้วย 2 ข้อสงสัยหลัก

1. ลูกชายของเธอทั้งสองคน (ดีเจอาร์ตและโอ๊ต) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด

2. เวิร์คพอยท์ (ต้นสังกัดของดีเจอาร์ต) ซึ่งมีชื่อเสียงและสถานะมั่นคง คงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

เมื่อพ่อของดีเจอาร์ตเข้ามาร่วมสนทนา เขาได้ใช้ไหวพริบในการถามปลายสายว่า

“ถ้าคุณบอกว่าอาร์ตเป็นลูกผม งั้นพ่อชื่ออะไร และแม่ชื่ออะไร?”

คำถามนี้ทำให้ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะรีบตัดสายทันที เป็นการยืนยันชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงการหลอกลวงของแก๊งมิจฉาชีพ

หลังจากที่ดีเจอาร์ตโพสต์เรื่องราวนี้ลงในเฟซบุ๊ก ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมในสติและไหวพริบของคุณพ่อและคุณแม่ที่ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ หลายคนยังบอกว่า เรื่องราวนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับครอบครัวอื่น ๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีคอมเมนต์ที่ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติม เช่น หากเจอเหตุการณ์คล้ายกัน ควรรีบตรวจสอบกับเจ้าตัวหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่าเพิ่งหลงเชื่อคำพูดปลายสาย และไม่ควรโอนเงินโดยไม่มีการตรวจสอบ

ดีเจอาร์ตได้ทิ้งท้ายในโพสต์ว่า

“แม้เหตุการณ์นี้จะฟังดูเหมือนตลก แต่ความจริงคือมันน่ากลัวมาก เพราะพ่อแม่อาจจะตกใจจนหลงเชื่อได้ ถ้าไม่มีสติ ระวังกันด้วยนะครับ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้”

กรณีของดีเจอาร์ตแสดงให้เห็นถึงกลลวงที่ซับซ้อนและน่ากลัวมากขึ้นของแก๊งมิจฉาชีพในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อป้องกันตนเองและคนใกล้ชิดจากการตกเป็นเหยื่อ ควรปฏิบัติดังนี้

1. ตั้งสติให้ดี หากได้รับสายแปลก ๆ โดยเฉพาะในยามวิกาล อย่าเพิ่งตื่นตกใจ ให้ตั้งสติและประเมินสถานการณ์

2. ตรวจสอบข้อมูล หากปลายสายอ้างว่ามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควรโทรหาผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อยืนยันความจริง

3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว ไม่ควรเปิดเผยชื่อ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ให้กับผู้โทรแปลกหน้า

4. แจ้งตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบว่าตัวเองหรือคนรอบข้างถูกหลอกลวง ควรรายงานต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ