สะเทือนใจ... ชีวิตเด็ก 15 ถูกพ่อเลี้ยงขืนใจหลายปี แม่รับรู้แต่ให้ยอมเพราะได้เงิน นำไปเสพยา-เล่นพนัน
สะเทือนใจ... ชีวิตเด็ก 15 พ่อแท้ๆ ป่วยติดเตียง ถูกพ่อเลี้ยงขืนใจหลายปี แม่รับรู้แต่ให้ยอมเพราะได้เงิน นำไปเสพยา-เล่นพนัน
ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี นำ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว จ.อุดรธานี และคุณป้า อายุ 41 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่า น.ส.เอ โดนแม่แท้ๆ ให้สามีใหม่ของแม่ขืนใจตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 เรื่อยมาจนถึงอายุ 15 ปี กระทั่งพ่อแท้ๆ เสียชีวิต เด็กไม่มีที่พึ่ง จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวให้ป้าฟัง ป้าจึงร้องไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่ง ขอความความช่วยเหลือ
ต้นอ้อ เผยว่า เมื่อวานนี้ ป้าของ น.ส.เอ โทรศัพท์ติดต่อมาหา และเล่าให้ฟังว่า น.ส.เอ โดนพ่อเลี้ยงขืนใจตั้งแต่อายุ 11 ขวบ พร้อมกับส่งคลิปที่หลานเล่าว่าโดนกระทำอะไรมาบ้าง เพราะพ่อแท้ๆ ของน้องซึ่งเป็นชาวอังกฤษ อายุ 71 ปี เพิ่งเสียชีวิต ทำให้น้องไม่มีที่พึ่ง และอยากหลุดพ้น ซึ่งได้ส่งแชตที่น้องคุยกับพ่อเลี้ยงและคุยกับแม่มาให้ดู
พฤติกรรมพ่อเลี้ยงเริ่มเข้ามาจับเนื้อต้องตัว เรียกเข้าไปในห้อง ครั้งแรกไม่สำเร็จ ซึ่งน้องก็กลัวและร้องไห้ จึงไปเล่าให้แม่ฟัง แต่แม่กลับตอบว่ารู้อยู่แล้ว เพราะว่าแม่เป็นคนวางแผนไว้กับพ่อเลี้ยงว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้
ต่อมาวันที่เกิดเหตุ พ่อเลี้ยงพาไปเที่ยว จากนั้นก็พาเข้าโรงแรม น้องจำชื่อโรงแรมไม่ได้ แต่จำทางไปโรงแรมได้ หลังจากกลับบ้านก็ไปบอกแม่ ซึ่งแม่ก็บอกว่า “ไม่เป็นไร เพราะแม่ตั้งใจให้เป็นแบบนี้” น้องก็ได้แต่ร้องไห้ แต่ก็บอกใครไม่ได้ ก็ต้องยอม และหลังจากนั้นแม่ก็เริ่มให้น้องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนนี้บ่อยๆ เพื่อให้น้องไปหลอกเอาเงิน ครั้งละ 1,000-1,500 บาท นำเงินมาให้แม่
ครั้งสุดท้ายที่พ่อเลี้ยงก่อเหตุคือก่อนปีใหม่ ตอนที่พ่อฝรั่งนอนไม่ได้สติแล้ว ทำที่บ้านของพ่อเลย แม่ก็ไม่ว่าอะไร น้องอยากหลุดพ้น น้องกลัวเขามาทำอีก วันนี้พ่อไม่อยู่แล้ว น้องอยากได้ศพพ่อออกมาทำพิธีทางศาสนา ไม่อยากให้พ่อนอนอยู่ที่ รพ. คนเดียว น้องเคยถามแม่ด้วยว่า “ไม่รักหนูเหรอ หรือแค่ให้อาศัยท้องมาเกิดแค่นั้น”
ตั้งแต่ตนทำเคสมา ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ รู้สึกหดหู่ เมื่อเช้าตนต้องกอดน้องและบอกว่าให้คิดว่าเราเป็นแม่ น้องก็กอดเราร้องไห้ สงสารน้องมาก ตัวแค่นี้ต้องโดนอะไรบ้างก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องศพพ่อน้อง ก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้
ป้าสะใภ้ของ น.ส.เอ เล่าว่า แม่เด็กแต่งงานกับสามีชาวอังกฤษ สามีชาวอังกฤษอยากมีลูก จึงบอกว่าถ้ามีลูกก็จะยกสมบัติให้ทั้งหมดแม่เด็กจึงตกลงมีลูกด้วยการทำกิ๊ฟ ได้ลูกมาก็คือ น.ส.เอ ต่อมาสามีชาวอังกฤษล้มป่วย แม่เด็กจึงไปคบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานรัฐวิสาหกิจ โดยไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ปล่อยให้ น.ส.เอ อยู่กับพ่อที่ป่วยติดเตียง แต่ก็ไปมาหาสู่ทั้งสองบ้าน กระทั่งมีลูกชายกับสามีใหม่ 1 คน
ญาติก็เห็นว่าดำเนินชีวิตตามปกติ จึงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว กระทั่งวันที่ 4 ม.ค. ได้ไปเยี่ยมพ่อ น.ส.เอ ที่บ้าน ก็ยังนอนป่วยหนัก พอตกกลางคืนก็เสียชีวิต ญาติมารู้เรื่องเพราะน้องคิดว่าพ่อเสียแล้ว ไม่มีคนที่จะอาศัยด้วย น้องมีอาการผวา และน้องทักแชตไปถามญาติว่า จะทำอย่างไรกับชีวิต จะมีคนช่วยหนูได้หรือไม่ ญาติจึงปลอบว่าให้บอกมาเลย ป้าและน้าจะช่วย ถ้าไม่สู้ก็จะเป็นเหมือนเดิม น้องก็เลยเล่าให้ฟัง ญาติๆ รู้สึกเสียใจ ที่แม่ปล่อยให้พ่อเลี้ยงกระทำกับลูกแท้ๆ ของตัวเองแบบนี้ เห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับครอบครัวตัวเอง
ด้านป้าแท้ๆ ของ น.ส.เอ กล่าวว่า อยากฝากถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นที่มันทำกับหลาน ให้มันตายไปซะ อยากให้ตำรวจจับมาดำเนินคดีทั้งสองคน ส่วนการดูแลหลานต่อจากนี้ จะให้หลานเลือกเองว่าจะอยู่กับใคร ญาติทุกคนพร้อมจะดูแล
ตลอดที่ผ่านมาพวกตนไม่ทราบเรื่องเลยว่าพวกเขาทำแบบนี้กับลูก รู้แต่ว่าเขาหวงและห่วงลูกมาก กีดกันญาติไม่ให้พบลูก เขาเคยไปขอเงินมารักษาสามีฝรั่ง เมื่อก่อนญาติก็ให้ แต่พอมารู้ว่าไปมีสามีอีกคนก็ไม่ให้แล้ว และเขายังมีลูกกับสามีใหม่อีก 1 คน ตอนแรกสามีฝรั่งไม่รู้ เพิ่งมารู้ จากนั้นก็แยกกันอยู่ ส่วนเรื่องเสพยา ญาติยืนยันว่าแม่ของ น.ส.เอ เสพยาจริง ให้ตำรวจจับมาตรวจดูก็ได้
ต่อมา เวลา 13.30 น. เจ้าหจ้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำหมายเรียกไปเชิญตัวหญิง อายุ 38 ปี แม่ของ น.ส.เอ จากบ้านเช่าแห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี และชาย อายุ 60 ปี พ่อเลี้ยงของ น.ส.เอ มาพบตำรวจที่โรงพัก
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ถาวรสินพงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้สอบปากคำ โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ตำรวจควบคุมตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
โดยขณะตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี สื่อมวลชนได้สอบถามพ่อเลี้ยงว่า ได้ขืนใจลูกเลี้ยงหรือไม่ แต่ทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เด็กไม่ตอบ ระหว่างนั้นญาติของ น.ส.เอ ได้วิ่งฝ่าตำรวจเข้ามา พยายามชกหน้าพ่อเลี้ยง แต่ตำรวจได้กันตัวออกไป
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับประสานจากคุณต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ก็ได้นำเด็กและญาติมาแจ้งความ เมื่อสอบสวนได้รายละเอียดก็ได้สั่งให้ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และชุด ปดส. ร่วมกันติดตามแม่และพ่อเลี้ยง ซึ่งอยู่บ้านเดียวกันมา 6-7 ปี มาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งคู่ให้การรับสารภาพ พ่อเลี้ยงสารภาพว่าเริ่มตั้งแต่เด็กอายุ 11-12 ขวบ เมื่อมีความสัมพันธ์แล้วให้เงิน 500, 1’000 หรือ 1,500 บาท ส่วนน้องได้ปรึกษาแม่ แต่แม่ก็บอกว่าให้ทำตามและยอมเขาไป
แม่ได้ประโยชน์จากการกระทำนี้ และรู้ว่าพ่อเลี้ยงทำอะไรกับลูก แต่ก็ไม่ได้ห้ามและไม่ปกป้อง ซึ่งได้แจ้งข้อหาพ่อเลี้ยงฐานข่มขืนกระทำชำเราเด็ก ส่วนแม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ หลักฐานชัดเจน เพราะเมื่อแม่ได้เงินจากลูกก็จะนำมาซื้อยาบ้าเสพ วันละ 2-3 เม็ด และจากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย แต่พ่อเลี้ยงไม่มี
ส่วนญาติของ น.ส.เอ ผู้ที่ปรี่เข้าไปชกพ่อเลี้ยง เผยความรู้สึกว่า ตนอดใจไม่ไหว คิดว่ามันเกินคน ตนเคยเห็นหน้าประมาณ 2-3 ครั้ง วันนี้ตนยังจำไม่ได้เลย พอตนเห็นหลักฐานเป็นคลิปเสียงของหลานสาวและแชต ก็รู้สึกว่ามันเกินไป เด็กโดนกระทำตั้ง 3-4 ปี ทนได้อย่างไร ส่วนแม่เด็ก ตนพูดไม่ออก รู้แต่ว่าชั่ว
ส่วนเด็กไปอยู่กับญาติคนไหนก็แล้วแต่เด็กจะตัดสินใจ เพราะเด็กโดนกระทำมามากแล้ว อยากถามผู้ก่อเหตุว่า “ทำไมมึงกล้าทำ มึงเป็นชู้กับเมียเขา มึงยังทำลูกเขาอีก ผัวเขานอนป่วย ยังกล้าทำลูกเขา” อยากให้ติดคุกนานๆ เอาให้ถึงที่สุดไปเลย
ด้านเพื่อนๆ ของแม่เด็ก เผยว่า เคยถามแม่เด็กว่า ไม่กลัวว่าสามีใหม่ทำอะไรลูกเหรอ เขาก็ยืนยันว่าไม่มีอะไร เพราะเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เด็ก และเด็กก็รักและเคารพเหมือนพ่อ ปกติถ้าเขาเข้ามาบ้านนี้แล้วเห็นลูกทำอะไรไม่เรียบร้อย ก็จะมีอารมณ์ฉุนเฉียว โมโห อารมณ์รุนแรง
สามีฝรั่งไม่เคยมีครอบครัวหรือมีลูกมาก่อน ส่วนสามีใหม่มีครอบครัวอยู่แล้ว แม่เด็กแยกออกไปอยู่กับสามีใหม่ได้ประมาณ 7 ปี แต่ทางสามีฝรั่งก็ช่วยเหลือเวลาขัดสน และทางสามีใหม่จะอาสามารับสามีฝรั่งไปฟอกไต และอาสารับ-ส่ง น.ส.เอ ไปโรงเรียน
หลังจากทราบว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจ พฤติกรรมทุกคนปกติ ไม่มีอะไรผิดสังเกต แม้กระทั่งตัวหลานเองก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าถูกพ่อเลี้ยงกระทำ ตอนแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเชิญตัว ก็คิดว่ามาประสานเรื่องศพสามีฝรั่งที่อยู่ รพ. ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้