ไฟป่าเขาใหญ่-ดงพญาเย็นปะทุหนักตั้งแต่ต้นปี เกิดเหตุซ้ำแล้ว 4 ครั้ง เสียหายเพิ่มกว่า 200 ไร่ รวมพื้นที่ป่าเสียหายเกือบ 1,000 ไร่
สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เขาใหญ่และดงพญาเย็น จังหวัดนครราชสีมา ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดไฟป่าครั้งที่ 4 ตั้งแต่ต้นปี 2565 สร้างความเสียหายเพิ่มอีกกว่า 200 ไร่ โดยรวมแล้วพื้นที่ป่าที่ถูกเผาไหม้สะสมตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา มีความเสียหายเกือบ 1,000 ไร่ ส่งผลกระทบทั้งด้านระบบนิเวศและสัตว์ป่าที่อาศัยในพื้นที่
นายสมชาย บุญมาก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ไฟป่าครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อนและเป็นป่าลึก ประกอบกับสภาพอากาศแห้งแล้งที่เกิดจากปริมาณฝนที่ลดลงในปีที่ผ่านมา และกระแสลมแรงในฤดูหนาว ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงป่าไม้ต้องเร่งระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยใช้อุปกรณ์ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์โปรยน้ำเพื่อสกัดไฟ
พื้นที่ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ กำลังเผชิญกับความเสียหายอย่างหนัก โดยผลกระทบไม่ได้จำกัดเพียงต้นไม้และพืชพรรณที่ถูกเผาไหม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัตว์ป่าหลายชนิดที่ต้องอพยพหนีไฟ และบางส่วนอาจเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะสัตว์หายาก เช่น ช้างป่า เลียงผา และนกเงือก
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไฟป่าปีนี้ถือว่ารุนแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนตกน้อยในปีที่ผ่านมา ทำให้วัชพืชแห้งและติดไฟง่าย เรากำลังทำแนวกันไฟเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยง และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ให้งดการจุดไฟเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าขึ้นอีก”
เจ้าหน้าที่อุทยานได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ในการควบคุมไฟ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังในพื้นที่สำคัญ เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดเหตุไฟป่าขึ้นอีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการไฟป่า รวมถึงเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งเหตุไฟป่าได้โดยตรงผ่านสายด่วนของอุทยาน
สถานการณ์ไฟป่าในครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชน เพื่อปกป้องพื้นที่ป่าที่เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศในระยะยาว