มณฑลชิงไห่ เมืองม่าโต่ว เกิดแผ่นดินไหวติดต่อกันสองครั้ง บริเวณจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีประชากรเบาบาง!
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2025 เวลาประมาณ 15:44 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ที่อำเภอม่าโต่ว (玛多县) ในเขตการปกครองกั๋วลั่ว (果洛州) มณฑลชิงไห่ (青海) ประเทศจีน โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 34.79 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 97.51 องศาตะวันออก ที่ความลึกของแผ่นดินไหวประมาณ 14 กิโลเมตร
หลังจากแผ่นดินไหวขนาด 5.5 เพียง 3 นาที ได้เกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกครั้งในพื้นที่เดียวกัน โดยวัดความรุนแรงได้ 3.7 ขนาด โดยจุดศูนย์กลางครั้งที่สองอยู่ที่ ละติจูด 34.78 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 97.54 องศาตะวันออก ที่ความลึก 10 กิโลเมตร ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่บนที่ราบสูงและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบาง
ตามรายงานจากสำนักข่าวซินหัว (新华社) ณ เวลา 16:30 น. ของวันเดียวกัน ยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ในรัศมี 200 กิโลเมตร รอบจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวในม่าโต่ว พบว่ามีแผ่นดินไหวขนาด 3 ขึ้นไป เกิดขึ้นรวม 102 ครั้ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยแผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2021 ที่อำเภอม่าโต่วเช่นกัน ซึ่งมีขนาด 7.4 ความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนั้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนไปไกลถึงเมืองซีหนิง (西宁) และหลานโจว (兰州) แม้จะไม่มีรายงานการเสียชีวิต แต่มีประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบ เช่น สะพานพังถล่ม เส้นทางคมนาคมสายหลักในระดับชาติและระดับมณฑลเสียหายหรือบิดเบี้ยว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2025 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ที่อำเภอติ้งรื่อ (定日县) ในเขตปกครองตนเองทิเบต (西藏自治区) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินไหวในม่าโต่ว ทำให้เกิดคำถามว่าแผ่นดินไหวที่ม่าโต่วในวันที่ 8 มกราคมนี้ อาจเป็น "อาฟเตอร์ช็อก" ของแผ่นดินไหวในติ้งรื่อหรือไม่
นายฟ่าน เสี่ยว (范晓) ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา และวิศวกรอาวุโสจากหน่วยสำรวจธรณีวิทยาภูมิภาคของมณฑลเสฉวน (四川省地质局) ได้ให้ความเห็นว่า "ไม่ใช่" โดยอธิบายว่า ทั้งสองพื้นที่ไม่ได้อยู่ใน "โครงสร้างทางธรณีวิทยาเดียวกัน" จึงไม่สามารถนับว่าเป็นผลต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวในติ้งรื่อ
ฟ่าน เสี่ยว ยังระบุว่า จีนตะวันตก เป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งตามลักษณะภูมิประเทศและโครงสร้างเปลือกโลกในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในช่วงระยะสั้นไม่สามารถยืนยันได้ว่าในปัจจุบันนี้เป็นช่วง "การเกิดแผ่นดินไหวบ่อยผิดปกติ" หรือไม่
เขาเสริมว่า ในยุคปัจจุบัน การสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดินไหวมีความรวดเร็วและกว้างขวางกว่าในอดีต ทำให้ประชาชนอาจรู้สึกว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจเป็นการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นจากการรายงานข่าวที่ครอบคลุมมากขึ้นนั่นเอง