ชีวิตที่ต้องเลือก! คนแต่งตัวเลียนแบบ Butterbear ในจีน เผย "ถ้าไม่แต่ง คนจะกลัว"

กระแสความนิยม Butterbear จากไทย สู่จีน จากมาสค็อตน่ารักสู่เรื่องราวสะเทือนใจ

Butterbear หรือที่คนจีนเรียกกันว่า "หวงโหยวเสี่ยวฉยง" (黄油小熊) ได้กลายเป็นกระแสยอดนิยมในประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความน่ารักและความสามารถในการเอนเตอร์เทนของมาสค็อตตัวนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ Butterbear ได้เดินทางไปเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่ ห้างสรรพสินค้าจิ่งเฟิง (景枫中心) ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ซึ่งได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ ชาวจีนอย่างล้นหลาม

อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจาก Butterbear ได้รับความสนใจจากชาวจีนมาตั้งแต่แรกเริ่ม มีรายงานว่ามีการทำมาสค็อตเลียนแบบ Butterbear ในหลายพื้นที่ของจีน เช่น การสร้างตัวมาสค็อตที่มีท่าทางและการเต้นคล้ายๆ กับโชว์ของ Butterbear ที่ไทย

ในขณะที่กระแสความนิยมของ Butterbear กำลังพุ่งสูง มีข่าวหนึ่งที่กลายเป็นไวรัลในจีน เมื่อมีการรายงานจากสำนักข่าว เฉียนเจียง (钱江视频) ถึงชีวิตของมาสค็อต Butterbear ตัวหนึ่งที่ขาย ถังหูลู่ (ผลไม้เคลือบน้ำตาล) อยู่ริมถนน

มาสค็อตตัวนี้แม้จะดูคล้าย Butterbear แต่เมื่อมองใกล้ๆ จะพบว่าเป็นของเลียนแบบที่รูปลักษณ์และรายละเอียดต่างๆ ไม่เหมือนต้นฉบับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ Butterbear ตัวนี้กลายเป็นประเด็นสนใจ คือเรื่องราวของชายที่อยู่เบื้องหลังชุดมาสค็อตนี้

ชายผู้สวมชุด Butterbear ตัวปลอมมีชื่อว่า ปาลากู่ เขาเป็นชายร่างเล็กที่มีความสูงเพียง 150 เซนติเมตร เนื่องจากเกิดมาพร้อมกับโรคเกี่ยวกับกระดูกที่ทำให้ร่างกายผิดปกติ ปาลากู่ประสบปัญหาในการหางานทำ และในที่สุดจึงต้องเปิดแผงขายของริมถนนเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว

เหตุผลที่เขาต้องแต่งตัวเป็นมาสค็อต Butterbear ไม่ใช่เพียงเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ยังเป็นวิธีที่เขาใช้ปกปิดรูปลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งเขากลัวว่าจะทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมารู้สึกตกใจ ปาลากู่เผยในคลิปวิดีโอว่า รายได้ของเขาต่อวันอยู่ที่ประมาณ 200 หยวน (ราว 1,000 บาท)

หลังจากที่คลิปวิดีโอเรื่องราวของปาลากู่ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดียของจีน ผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแสดงความเห็นใจ หนึ่งในความคิดเห็นยอดนิยมกล่าวว่า

"ใครจะรู้ว่ามีเรื่องเศร้าอยู่เบื้องหลังรูปลักษณ์ที่น่ารักเช่นนี้?"

อีกความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า

 "ครั้งหน้าที่ฉันเห็นหมีเนยตัวปลอมที่อู่ฮั่น ฉันจะต้องซื้อถังหูลู่ของเขาสักสองสามไม้แน่นอน"

ความคิดเห็นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจของผู้คนต่อปาลากู่ และเป็นการสะท้อนถึงพลังของเรื่องราวที่เข้าถึงหัวใจของคนทั่วไป

ความนิยมของ Butterbear ในจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสแฟชั่นหรือความชื่นชอบในความน่ารักของมาสค็อตตัวนี้ แต่ยังสะท้อนถึงวิธีที่คนจีนสามารถใช้แบรนด์หรือมาสค็อตที่มีชื่อเสียงเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต

เรื่องราวของปาลากู่ไม่เพียงแต่เปิดเผยด้านที่แตกต่างของกระแสความนิยม Butterbear ในจีน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคนที่เผชิญกับความยากลำบากในชีวิต แม้ว่าเขาจะเป็น "หมีเนยตัวปลอม" แต่สิ่งที่เขาทำกลับสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก

Butterbear จากไทยได้กลายเป็นตัวแทนของความน่ารักและความสนุกสนานในสายตาชาวจีน แต่เรื่องราวของปาลากู่ได้เพิ่มมิติใหม่ให้กับแบรนด์นี้ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าใจและให้กำลังใจผู้ที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากหรือชุดมาสค็อต

ครั้งต่อไปที่เราเห็นมาสค็อตตัวใดก็ตาม เราอาจต้องลองคิดดูว่า ใครคือคนที่อยู่ข้างใน? พวกเขาอาจมีเรื่องราวที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งสามารถเป็นแรงบันดาลใจและเตือนใจเราให้รู้จักเห็นคุณค่าและสนับสนุนกันในสังคม