'จ้าวลู่ซือ'อัพเดทอาการป่วยหลังซึมเศร้าจนกิน-เดินแทบไม่ได้!
หลังจากวงการบันเทิงจีนสั่นสะเทือนกับข่าวของ 'จ้าวลู่ซือ' ที่ป่วยเนื่องจากสภาวะจิตใจที่บอบช้ำจนกินข้าวและเดินไม่ได้ ซึ่งเกิดจากการต่อว่าอย่างรุนแรงและถูกทุบตีมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2019 รวมถึงมีข่าวลือว่าผู้จัดการของเธอบีบบังคับเธอด้วยการทุบตีและค่าธรรมเนียมการเลิกจ้างที่สูงลิ่ว ล่าสุดน้ำหนักของจ้าวลู่ซือเหลือเพียง 36.9 กก. เท่านั้น
จ้าวลู่ซือ ได้โพสต์อัพเดตอาการของตัวเองลงบนเว็บป๋อซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลของจีน โดยมีผู้แปลเนื้อหาไว้ดังนี้
.
การตอบสนองครั้งแรกและครั้งสุดท้ายต่อเหตุการณ์ล่าสุดทั้งหมด
ต้องขอโทษจริงๆที่ใช้พื้นที่สาธารณะ
ก่อนหน้านี้อาการป่วยของฉันไม่ไม่ได้กระทบต่องานหรือคนรอบข้าง และฉันยอมรับถึงปัญหาของตัวเอง เพราะว่าฉันค่อนข้างสามารถอดทนได้ และเพียงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉันค้นพบว่าจริงๆเเล้วฉันไม่ใช่คนใจกว้าง ดังนั้นฉันจึงต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
อาชีพของฉัน ทำให้ฉันได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนที่มากขึ้น รู้สึกขอบคุณและโชคดีมากๆเลย เเละสามารถเข้าใจความเข้าใจผิดทั้งหมดนี้ได้ ฉันสนับสนุนให้ทุกคนเลือกอาชีพที่อยากทำได้ทุกเมื่อ เพราะคุณมีสิทธ์ที่จะหลีกหนีจากสถานการณ์ในขณะนั้นที่ทำให้คุณทุกข์ทรมานและเหนื่อยล้าต่ออุปสรรค คุณสามารถหยุดได้ตามที่ต้องการ คุณเป็นอิสระ และคุณสามารถกล้าหาญได้นะ
ฉันเข้าใจว่าเราทุกคนเคยได้รับความคับข้องใจและความไม่ยุติธรรม ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเเย่ๆมามากเกินไป หรือถ้าหากถูกปกปิดโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือและผู้กระทำผิดยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะอาชีพใด เพศ หรืออายุใดก็ตาม ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดทั้งหมดที่จะบังคับให้เปิดเเผลเป็นเพื่อพิสูจน์ว่า ‘ไม่ใช่ปล่อยวางไม่ได้’ ‘ไม่ใช่อดทนไม่ได้’ ‘ไม่ใช่ไม่พอใจ’ นี่เป็นเรื่องคนละเรื่องกันเลย เเต่ไม่ว่าบาดเเผลจะเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่มีใครนอกจากแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะตัดสินว่าเหตุการณ์นั้นร้ายแรงหรืออาจเป็นสาเหตุของโรคได้หรือไม่
ในปี 2019 ฉันมีภาวะซึมเศร้า ที่ ‘คุณอย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย’ ‘เเค่คุณคิดเรื่องราวดีๆก็โอเคเเล้ว’ ฉันยังคิดว่าตัวเองเเกล้งทำเป็นไม่สนใจเเละอ่อนไหวเกินไป และไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาสภาพจิตใจของตัวเอง
ในปี 2021 ฉันรู้สึกเหมือนมีแมลงไต่อยู่บนตัว และรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่ม ร่วมกับอาการภูมิแพ้ ฉันไปโรงพยาบาลเพื่อสั่งยาและฉีดยา แต่อาการก็ไม่ทุเลาลง จากนั้นจึงไปพบจิตแพทย์ เพื่อเริ่มการรักษาเพื่อบรรเทาความเครียดทางอารมณ์
ปี 2023 โรคปอดบวม โรคถุงลมโป่งพอง โรคผื่นกุหลาบ ลมพิษ เหงื่อออกตอนกลางคืน สูญเสียการได้ยิน ข่าวต่างๆของการสูญเสียคนที่รักและมะเร็ง เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เหตุการณ์นั้นใหญ่กว่าจะรู้สึกได้ ทำให้ฉันเองยังคงละเลยต่อไป
ปี 2024 เป็นปีที่ฉันเริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อยๆ เวียนศีรษะ ปวดข้อ ปวดคอ ภาวะโซมาติกและอาการทางร่างกายอื่นๆที่เห็นได้ชัด รวมถึงการกำเริบของโรคภูมิแพ้ ฉันคืดว่ามีสาเหตุมาจากผลข้างเคียงตามปกติของการใช้ยารักษาโรคภูมิแพ้
ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ใครๆต่างก็บอกว่าฉันเป็นคนหน้าตาดีที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ฉันถูกตีในหอพักครูตอนที่เรียนพิเศษ ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันเรียนไม่เก่งจึงถูกตีนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องเเล้ว เเต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะว่า “ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามต้องหาเหตุผลให้ได้ด้วยตัวเอง”
พอโตขึ้นก็โดนตีอีก ตอนนั้นคิดว่าเป็นความผิดตัวเองที่ไม่ได้รับบทบาทการแสดง ฉันเคยชินกับการจัดการเรื่องของตัวเองและไม่มีนิสัยขอความช่วยเหลือจากใครเลย ฉันไม่อยากสร้างปัญหาและฉันแค่อยากจะหลีกหนี ต่อมาผลงานของฉันได้รับการยอมรับ รู้สึกขอบคุณพลังกำลังใจของทุกคน มันทำให้ฉันมีความมั่นใจในการบอกลา สุดท้ายแล้วเขาคนนั้นก็ได้รับค่าชดเชย จำนวนมากก่อนที่จะเต็มใจหยุดสร้างข่าวตีโพยตีพาย มีข่าวลือและใส่ร้ายกันทั้งในวงการและนอกวงการมานับไม่ถ้วน โดยมีคนมาคุยกับฉันหลังจาก "ซุบซิบนินทา"
จริงๆ แล้วความเจ็บปวดจะหนักขึ้นทุกครั้ง เลยไม่หยุดทำร้ายฉัน...
อันที่จริง ฉันเข้าใจดีว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะต้องการทุกสิ่ง และฉันไม่สามารถขอให้เพื่อน พ่อแม่ บริษัท ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์แบบได้ พวกเขาไม่เคยทำร้ายฉันและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องฉันมามากพอเเล้ว
ฉันไม่เคยพูดถึงโรคนี้มาก่อน ฉันไม่อยากให้โรคนี้กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า "สร้างกระแส"
แต่เมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว ฉันอยากให้ทุกคนทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ:
อาการซึมเศร้าเป็นโรคทางอารมณ์อย่างหนึ่ง แต่อาการซึมเศร้าเป็นโรค และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการ "ปล่อยวาง" หรือ "เเค่พูดออกมา"
ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะ "เข้าอกเข้าใจ" เช่นเดียวกับฉัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันไม่สำคัญอีกต่อไปว่าคุณจะ "เข้าใจ" อย่างแท้จริงหรือไม่ และคุณจะยังคงพิสูจน์ตัวเองต่อไปในวังวนแห่งการสนทนาโดยไม่สามารถช่วยตัวเองได้
เข้าใจเกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิตวิทยา
ให้ความสำคัญกับจิตบำบัด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมากจริงๆ
ความเสียใจเป็นอารมณ์ที่ไร้ประโยชน์
"ถ้าอย่างนั้นให้มองว่ามันเป็นโอกาสที่จะให้ "เวลาพิเศษ" แก่ตัวเองเพื่อพลิกสถานะความขัดแย้งภายในใจก่อนหน้านี้ และสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่"
ขอขอบคุณทุกความห่วงใย เพราะได้รับความรักจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ฉันขอให้คุณทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่และมีความสุขในทุกๆวันนะคะ
.
ชาวเน็ตหลายรายรู้สึกเห็นใจจ้าวลู่ซือและแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจกันมากมาย ชาวไทยหลายรายแสดงความคิดเห็นกับเรื่องของเธอ เช่น
"ขอให้หายไวไวนะค่ะติดตามผลงานน้องอยู่เสมอค่ะ"
"คนที่น่ารัก ดูสดใส เจอกับเรื่องแย่ๆ ขนาดนี้เลย 😭😭😭"
"สงสาร ทำงานหนักแบบนี้มาตั้งหลายปี 😭"
"ลูซือต่อสู้กับการเจ็บป่วยทางกายและทางใจอย่างยาวนาน เข้าใจสิ่งที่น้องเล่า มั่นใจว่าน้องจะผ่านมันได้ถ้าน้องพบหมอระบบประสาทและหมอจิตวิทยารักษาร่วมกันไปด้วยดีน้องจะหายป่วยมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง นับแต่นี้เป็นต้นไปขอให้น้องหายป่วยมีความสดใสได้พบแต่สิ่งดีๆพบกับคนที่ดีมีแต่ความสุขตลอดไปค่ะ"
"โห...รู้สึกเจ็บปวดไปกับน้องด้วยเลยอะ..ขอให้เหตุการณ์ร้ายๆในชีวิตน้องลู่ซือจงจบสิ้นไปกับปี2024..จากนี้ไปขอให้พบแต่คนดีดีสิ่งดีดี..ขอส่งความรักให้น้องลู่ซือจากแดนไกลให้เป็นพลังในการก้าวต่อไปในเส้นทางชีวิตของศิลปินผู้เป็นที่รักของทุกๆคน.."
"สงสารน้องมาก เราที่ดูซีรีย์ของน้องเห็นความน่ารักสดใส ภายใต้รอยยิ้มนั้นไม่รู้น้องเจออะไรมาบ้าง ปี2025และปีต่อๆไปอย่าใจร้ายโหดร้ายกับน้องมาก ขอให้น้องหายไวๆและสิ่งดีโอบอุ้มน้องด้วยน่ะคะ"